EN

แชร์

Copied!

ตรวจสอบแล้ว: สื่อกัมพูชาอ้าง “ทหารไทยต่อรองขอยอมจำนน” ทบ.ยัน “ข่าวปลอม”

24 ก.ค. 6816:16 น.
การเมือง#ข่าวปลอม
ตรวจสอบแล้ว: สื่อกัมพูชาอ้าง “ทหารไทยต่อรองขอยอมจำนน” ทบ.ยัน “ข่าวปลอม”

ความขัดแย้งระหว่างกองทัพไทยและกองทัพกัมพูชา ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.ค.68) ส่งผลให้มีการแชร์ภาพข่าวและความเคลื่อนไหวทางทหารกันเป็นจำนวนมากในโลกออนไลน์ ล่าสุด Thai PBS Verify พบสื่อกัมพูชาโพสต์ข้อมูลเท็จอ้าง "ทหารไทยขอต่อรองยอมจำนน"

จากการตรวจสอบเรื่องนี้ Thai PBS Verify พบว่าเป็นข่าวปลอม ที่ทำให้เข้าใจผิด โดยมีข้อมูลจริงคือ เกิดเหตุการณ์ตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชา ขณะที่ข้อมูลเท็จคือ การนำภาพที่ไม่เกี่ยวข้องมาใช้ประกอบและไม่มีรายละเอียดของข่าวมีเพียงการกล่าวอ้างเพียงเท่านั้น

Thai PBS Verify พบแหล่งที่มาข่าวปลอมจาก : Facebook

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงโพสต์ของ Khmer News อ้าง ทหารไทยยอมจำนนต่อรอง

บัญชีเฟซบุ๊กสื่อกัมพูชาชื่อ Khmer News โพสต์เฟซบุ๊กภาพพร้อมระบุข้อความ “ทหารไทยยอมจํานนต่อรอง” โดยโพสต์ดังกล่าวมีผู้แสดงความรู้สึกกว่า 3,600 ครั้ง รวมถึงแชร์ข้อมูลดังกล่าวไปเกือบ 600 ครั้ง ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีชาวกัมพูชาเข้ามาแสดงความคิดเห็นไปกว่า 860 ครั้ง

Thai PBS Verify ตรวจสอบโพสต์ดังกล่าว พบว่าเป็นการนำภาพของ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมกับภาพทหารพรานของไทย ซึ่งเมื่อใช้เครื่องมือตรวจสอบภาพด้วย Google Lens พบว่า ภาพที่นำมาใช้อ้างอิงนั้น ถูกนำมาจากบัญชีเฟซบุ๊กของ “กรกต เกตุแก้ว” อดีตทหารพรานของไทย ซึ่งได้โพสต์ภาพดังกล่าวไว้เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันแต่อย่างใด (ลิงก์บันทึกที่นี่ และ นี่)

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงโพสต์ของสื่อกัมพูชา (ซ้าย) เปรียบเทียบกับ โพสต์ของ กรกต เกตุแก้ว อดีตทหารพรานของไทย

“พล.อ.ณัฐพล​” ระบุถึงขั้นนี้ไม่คุยกันแล้ว

นอกจากนี้พบรายงานข่าวจาก Thai PBS ที่ได้สัมภาษณ์ พล.อ.ณัฐพล ซึ่งเปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวเบื้องต้นแล้ว และขณะนี้มีการปฏิบัติการอยู่ จึงต้องรอรายละเอียด แต่มาถึงขั้นนี้ คงไม่ต้องคุยกันแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาไทยพยายามเชิญชวนแก้ปัญหาด้วยกลไกทวิภาคี สิ่งที่ข้อเสนอให้กัมพูชา คือ ทั้งสองฝ่ายต้องเคลื่อนย้ายกำลังออกจากพื้นที่ชายแดน เพราะอาจมีเหตุการณ์ที่กระทบกระทั่งกันได้ (ลิงก์บันทึก)

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า วันนี้ (24 ก.ค.68) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการเหล่าทัพ จะหาแนวทางและมาตรการต่าง ๆ ส่วนปฏิบัติการจักรพงษ์ภูวนารถ ขณะนี้ยังไม่ได้ใช้ โดยต้องรอการหารือก่อน พร้อมขออภัยและให้กำลังประชาชนตามแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ แต่ยืนยันว่ากองทัพไทย อดทนอดกลั้นมาถึงที่สุดแล้ว ต่อไปจะไม่อดทนแล้ว เพราะเป็นการปฏิบัติของทหารกัมพูชาที่เรารับไม่ได้

รองโฆษกกองทัพบกยืนยัน Fake News

นอกจากนี้เรายังตรวจสอบข้อมูลกับ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ซึ่งยืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยเป็นเพียงข่าวปลอมเพียงเท่านั้น ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และกองทัพยังไม่มีการเจรจาต่อรองแต่อย่างใด (ลิงก์บันทึก)

พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก

สถานการณ์ล่าสุด

ล่าสุดกองทัพบกได้รับรายงานเบื้องต้นจากส่วนราชการในพื้นที่ว่า มีพื้นที่พลเรือนตกเป็นเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงมีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้

1. พื้นที่บริเวณปั๊ม ปตท. บ้านผือ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 10 ราย
2. พื้นที่บ้านโจรก ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 2 ราย (1 รายเป็นเด็กชายอายุ 8 ปี) และได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ส่งต่อ รพ.กาบเชิง
3. พื้นที่บ้านกุดเชียงมุน, บ้านจันลา, บ้านโพนทอง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย
4. พื้นที่บ้านขี้เหล็ก ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ส่งผลให้บ้านเรือนและสัตว์เลี้ยงทางการเกษตรได้รับความเสียหาย
5. พื้นที่หมู่ 16 ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย
6. พื้นที่บ้านหนองแรด ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย
7. พื้นที่บ้านนายบุญล่วม ทองวิเศษ หมู่ 9 ต.โดมประดิษฐ์ ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย

กระบวนการตรวจสอบ

  1. ตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือตรวจสอบภาพ : เมื่อทำการค้นหาด้วยเครื่องมือตรวจสอบภาพ Google Lens พบว่าเป็นว่าเป็นการนำภาพทหารพรานจากผู้ใช้เฟซบุ๊กในไทยมาใช้ในการแอบอ้าง ซึ่งเนื้อหาของโพสต์ไม่เกี่ยวข้องกับภาพที่ถูกนำมาแต่อย่างใด
  2. ตรวจสอบผ่านการยืนยันจากหน่วยงานความมั่นคง : ยืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยเป็นเพียงข่าวปลอมเพียงเท่านั้น
  3. ตรวจสอบผ่านการยืนยันจากผู้ที่ถูกพาดพิง : พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ไม่มีการเจรจาแต่อย่างใด

ผลกระทบของข้อมูลนี้

  1. สร้างความเข้าใจผิดและบิดเบือนสถานการณ์: ข่าวปลอมนี้สร้างความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชา ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าทหารไทยยอมจำนน ซึ่งไม่เป็นความจริง และอาจบั่นทอนขวัญกำลังใจของประชาชนและทหาร
  2. บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือ: การเผยแพร่ข่าวปลอมส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารโดยรวม ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและไม่สามารถแยกแยะข้อมูลจริงออกจากข้อมูลเท็จได้
  3. ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ: ข่าวปลอมลักษณะนี้สามารถสร้างความเข้าใจผิดและความไม่พอใจระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูตและความร่วมมือในด้านต่าง ๆ
  4. ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกและเข้าใจผิดในสังคม: การแชร์ข่าวปลอมอย่างแพร่หลายบนโซเชียลมีเดียอาจทำให้เกิดความตื่นตระหนก ความกังวล หรือแม้แต่ความโกรธแค้นในหมู่ประชาชน

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงการแสดงความคิดเห็นของชาวกัมพูชาต่อข้อมูลเท็จ

ข้อแนะนำเมื่อได้ข้อมูลเท็จนี้ ?

  • ตรวจสอบแหล่งที่มาก่อนเชื่อและแชร์: ก่อนที่จะเชื่อหรือแชร์ข้อมูลใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาและความน่าเชื่อถือของข่าวนั้น ๆ เสมอ ในกรณีนี้ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ รองโฆษกกองทัพบก ได้ยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม
  • สังเกตความผิดปกติของภาพและเนื้อหา: ข่าวปลอมมักใช้ภาพที่ไม่เกี่ยวข้องหรือมีการตัดต่อเพื่อสร้างความเข้าใจผิด หากเห็นภาพที่ไม่สมเหตุสมผลหรือไม่สอดคล้องกับเนื้อหาข่าว ควรสงสัยไว้ก่อน
  • ติดตามข่าวสารจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ: ควรติดตามข่าวสารจากสำนักข่าวที่ได้รับการยอมรับและมีมาตรฐานในการตรวจสอบข้อมูล เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง
  • ระมัดระวังการแสดงความคิดเห็น: การแสดงความคิดเห็นหรือการแชร์ข้อมูลที่บิดเบือน อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ