EN

แชร์

Copied!

ตรวจสอบแล้ว: สื่อกัมพูชาลงข่าวปลอม อ้าง ทหารไทยหนี “ทิ้งชุด-ศพทหาร” ไว้บนปราสาทตาควาย

26 ก.ค. 6819:13 น.
การเมือง#ข่าวปลอม
ตรวจสอบแล้ว: สื่อกัมพูชาลงข่าวปลอม อ้าง ทหารไทยหนี “ทิ้งชุด-ศพทหาร” ไว้บนปราสาทตาควาย

สื่อกัมพูชาลงข่าวอ้าง "กองกำลังไทยถูกพบเห็นกำลังถอยทัพอย่างโกลาหลจากบริเวณปราสาทตาควาย พร้อมทิ้งชุดและศพทหารหนี" ล่าสุด Thai PBS Verify ตรวจพบเป็นข่าวปลอม นำภาพกรณีการควบคุมตัวชายต้องสงสัยใน จ.ศรีษะเกษ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 68 มาแอบอ้างเพียงเท่านั้น

จากการตรวจสอบเรื่องนี้ Thai PBS Verify พบว่าเป็นข่าวปลอม ที่มีลักษณะบิดเบือน ด้วยการตั้งใจสร้างข้อมูลเท็จ ทั้งในส่วนของข้อความและรูปภาพ

Thai PBS Verify พบแหล่งที่มาข่าวปลอมจาก : Facebook

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงข่าวของสื่อ “Fresh News Cambodia” โพสต์อ้าง “ทหารไทยหนีทิ้งอาวุธและศพที่ปราสาทตาควาย”

Thai PBS Verify ตรวจสอบโพสต์เฟซบุ๊กของสื่อ “Fresh News Cambodia” ซึ่งเป็นสื่อของกัมพูชา ที่ได้พาดหัวข้อข่าวว่า “Thai Troops Flee, Abandon Gear and Bodies at Ta Krabei” แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “ทหารไทยหนีทิ้งอาวุธและศพที่ท่ากระบี่” ขณะที่รายละเอียดในข่าวระบุว่า “กองกำลังไทยถูกพบเห็นกำลังถอยทัพอย่างโกลาหลจากบริเวณปราสาทตากระบือ ตามรายงานจากสนามรบ ในการถอนกำลังอย่างเร่งรีบ พวกเขาได้ทิ้งทั้งยุทโธปกรณ์และศพทหารไทยที่เสียชีวิตไว้บนแผ่นดินกัมพูชา” โดยมีภาพประกอบเป็นภาพชุดลายพรางพร้อมป้ายธงชาติไทย ซึ่งโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปถึงกว่า 30 ครั้งด้วยกัน

เมื่อเราทำการตรวจสอบแหล่งที่มาของภาพด้วย Google Lens พบว่า ภาพประกอบดังกล่าวถูกนำมาจากภาพข่าวการจับกุมชายต้องสงสัย ในพื้นที่บ้านหนองเม็ก อ.กันทรลักณ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา (ลิงก์บันทึก)

ภาพแสดงกระบวนการตรวจสอบด้วย Google Lens ซึ่งพบว่าภาพดังกล่าวไปตรงกับโพสต์ของเพจ “ยโสบ้านเฮา”

สำหรับภาพดังกล่าวถูกนำมาจากข่าวของเพจเฟซบุ๊ก “ยโสบ้านเฮา” ที่ได้โพสต์ภาพการควบคุมตัวชายต้องสงสัยใน จ.ศรีสะเกษ ของเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 68 ซึ่งตรวจสอบพบอุปกรณ์ทางทหาร ได้แก่ เสื้อเกราะ, กระเป๋า และหมวกที่มีป้ายธงชาติไทย ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะถูกนำตัวไปตรวจสอบยัง สภ.บึงมะลู จ.ศรีสะเกษ ทำการตรวจสอบอีกครั้ง (ลิงก์บันทึก)

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงโพสต์ของเพจยโสธรบ้านเฮา ที่ได้ลงข่าวการควบคุมตัวชายต้องสงสัยในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

สื่อกัมพูชาสร้าง “ข่าว-ภาพ” ปลอม

นอกจากนี้เรายังตรวจสอบไปยัง พ.ต.อ.พงศ์พิพัฒ เหิมฉลาด ผกก.สภ.บึงมะลู ซี่งเปิดเผยว่า ภาพดังกล่าวมาจากกรณีชาวบ้านในพื้นที่แจ้งว่า พบชายสวมเครื่องแบบทหารลักษณะต้องสงสัย ขี่จักรยานยนต์อยู่ในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวมาตรวจสอบ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 68 ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นภาพอุปกรณ์ที่ตรวจสอบพบ โดยจากการสอบสวนชายต้องสงสัยรายดังกล่าวพบว่า เป็นเพียงผู้ที่ต้องการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ และเมื่อตรวจสอบไปยังญาติของผู้ต้องสงสัยดังกล่าว พบว่า ชายรายนี้เป็นเพียงผู้ที่มีสติไม่สมประกอบ ที่รับฟังข่าวความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แล้วมีความรู้สึกต้องการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เพียงเท่านั้น ไม่ใช่สายลับของกัมพูชาแต่อย่างใด จึงได้ทำการส่งตัวให้กับญาติดูแลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวชายต้องสงสัยมาตรวจสอบ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 68 ซึ่งภายหลังพบว่าเป็นเพียงผู้ที่สติไม่สมประกอบเพียงเท่านั้น

“กรณีข่าวของกัมพูชาที่มีการนำภาพอุปกรณ์ทางทหารไปแอบอ้างนั้น ยืนยันว่า ภาพดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับปราสาทตาควาย และชายรายดังกล่าวไม่ได้เป็นทหารของไทยแต่อย่างใด” พ.ต.อ.พงศ์พิพัฒ กล่าว

กระบวนการตรวจสอบ

ตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือตรวจสอบภาพ: เมื่อทำการตรวจสอบแหล่งที่มาของภาพด้วย Google Lens พบว่า ภาพดังกล่าวถูกนำมาจากกรณีการควบคุมตัวชายต้องสงสัยใน จ.ศรีษะเกษ

ภาพแสดงกระบวนการตรวจสอบด้วย Google Lens ซึ่งพบว่าภาพดังกล่าวไปตรงกับโพสต์ของเพจ “ยโสบ้านเฮา”

ตรวจสอบผ่านการยืนยันจากผู้ที่เกี่ยวข้อง: พ.ต.อ.พงศ์พิพัฒ เหิมฉลาด ผกก.สภ.บึงมะลู ยืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ชายรายนี้เป็นเพียงผู้ที่มีสติไม่สมประกอบและไม่ได้เป็นทหารไทยแต่อย่างใด

ผลกระทบของข้อมูลเท็จนี้

  1. กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    ข่าวปลอมลักษณะนี้อาจสร้างความเข้าใจผิด และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ให้เพิ่มมากขึ้น
  2. สร้างความหวาดระแวงในสังคม
    เมื่อผู้รับข่าวสารโดยไม่ตรวจสอบ อาจเกิดความเข้าใจผิดต่อสถานการณ์ความเป็นจริง
  3. ทำลายศรัทธาต่อกองทัพไทย
    การกล่าวหาว่าทหารไทยทิ้งศพและอาวุธ ทำให้เกิดภาพลักษณ์เชิงลบต่อกองทัพ แม้จะไม่เป็นความจริง

 

ข้อแนะนำเมื่อได้ข้อมูลเท็จนี้ ?

ตรวจสอบแหล่งที่มาก่อนเชื่อและแชร์: ก่อนที่จะเชื่อหรือแชร์ข้อมูลใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาและความน่าเชื่อถือของข่าวนั้น ๆ เสมอ

สังเกตความผิดปกติของภาพและเนื้อหา: ข่าวปลอมมักใช้การใช้ภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา เพื่อสร้างความเข้าใจผิด หากเห็นภาพที่ไม่สมเหตุสมผล หรือไม่สอดคล้องกับเนื้อหาข่าว ควรสงสัยไว้ก่อน

ติดตามข่าวสารจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ: ควรติดตามข่าวสารจากสำนักข่าวที่ได้รับการยอมรับและมีมาตรฐานในการตรวจสอบข้อมูล เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง

ระมัดระวังการแสดงความคิดเห็น: การแสดงความคิดเห็นหรือการแชร์ข้อมูลที่บิดเบือน อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ