Loading...

แชร์

Copied!

ตรวจสอบแล้ว: โพสต์อ้างรถบัสไทยตกเหว แท้จริงเป็นภาพอุบัติเหตุที่ประเทศกัวเตมาลา

20 ต.ค. 6820:11 น.
รอบโลก#ข่าวปลอม
ตรวจสอบแล้ว: โพสต์อ้างรถบัสไทยตกเหว แท้จริงเป็นภาพอุบัติเหตุที่ประเทศกัวเตมาลา

Thai PBS Verify ตรวจสอบกรณีบัญชีผู้ใช้ Facebook โพสต์ภาษากัมพูชาอ้างว่าเกิดอุบัติเหตุรถบัสของไทยตกเหวลึก 50 เมตร มีผู้เสียชีวิต 36 คน พบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นเท็จ ภาพที่เผยแพร่เป็นเหตุการณ์รถโดยสารตกสะพานในประเทศกัวเตมาลา เมื่อช่วงต้นปี 68 ไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยแต่อย่างใด

ตรวจสอบพบผู้ใช้บัญชี Facebook รายหนึ่งโพสต์ภาษากัมพูชาอ้างว่าเกิดอุบัติเหตุรถบัสของไทยตกเหวลึก 50 เมตร และมีผู้เสียชีวิต 36 คน พร้อมแชร์ภาพอุบัติเหตุดังกล่าวในช่องแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้เรายังพบโพสต์ลักษณะนี้ในช่องทาง Thread 

พร้อมระบุคำอธิบายว่า

รถบัสสยามตกเหวลึก 50 เมตร คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 36 คน บาดเจ็บเกือบ 30 คน

ภาพบันทึกหน้าจอในช่องแสดงความคิดเห็นของผู้เขียนโพสต์ดังกล่าว แนบภาพอุบัติเหตุพร้อมระบุว่า เหตุเกิด 6 ต.ค. 68

แท้จริงเป็นภาพจากเหตุการณ์ที่ประเทศกัวเตมาลา

ตรวจสอบแล้วเมื่อนำภาพดังกล่าวไปค้นหาด้วยเครื่องมือตรวจสอบรูปภาพ Google Lens พบว่าภาพเหล่านี้ไปตรงกับรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศ AP และยังพบรายงานของ Al Jazeera, CNN, Reuters และ BBC ซึ่งเผยแพร่ข่าวเมื่อระหว่างวันที่ 10-11 ก.พ. 68 

ขณะเดียวกัน Thai PBS ระบุว่าเป็นเหตุการณ์รถโดยสารสาธารณะตกสะพาน ที่ประเทศกัวเตมาลา (คลิกเพื่อดู เนื้อหาต้นฉบับที่บันทึกไว้) ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุบนท้องถนนครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของภูมิภาคละตินอเมริกาในรอบหลายปี จากกรณีรถโดยสารคันดังกล่าวเดินทางมุ่งหน้าสู่กรุงกัวเตมาลา ซิตี้ พร้อมผู้โดยสารประมาณ 70 คน ก่อนที่รถเสียการควบคุมและพุ่งชนรถคันอื่น ๆ รวมทั้งพุ่งชนแนวกั้นสะพานจนตกลงสู่แม่น้ำเน่าเสีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 55 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายคน

ภาพบันทึกหน้าจอเมื่อนำภาพดังกล่าวไปค้นหาด้วย Google Lens พบว่าตรงกับข้อมูลจากรายงานของสำนักข่าว AP

ภาพบันทึกหน้าจอเปรียบเทียบระหว่าง (ภาพซ้าย) จากโพสต์ที่อ้างว่าเป็นภาพรถโดยสารตกเหวที่เกิดขึ้นในประเทศไทย กับ ภาพจากรายงานของสำนักข่าว Al Jazeera ที่ระบุว่าเป็นอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะตกสะพาน ที่ประเทศกัวเตมาลา โดยอ้างอิงแฟ้มภาพจาก AP เผยแพร่ข่าวเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 68 (ภาพขวา) เมื่อนำภาพมาเปรียบเทียบกันพบว่า สภาพแวดล้อมและบริบทสถานการณ์คล้ายกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นเหตุการณ์เดียวกัน

ภาพบันทึกหน้าจอเปรียบเทียบระหว่าง (ภาพซ้าย) จากโพสต์ที่อ้างว่าเป็นภาพจากเหตุการณ์รถโดยสารตกเหวที่เกิดขึ้นในประเทศไทย กับ (ภาพขวา) ภาพจากรายงานของสำนักข่าว Al Jazeera ที่ระบุว่าเป็นภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยดับเพลิงขณะปฏิบัติหน้าที่จากเหตุรถโดยสารสาธารณะตกสะพาน ที่ประเทศกัวเตมาลา โดยอ้างอิงแฟ้มภาพจาก AP เผยแพร่ข่าวเมื่อวันที่ 10 ก.พ.68 ซึ่งเมื่อนำภาพมาเปรียบเทียบกันพบว่าเป็นภาพเดียวกัน

อีกทั้งตรวจสอบพบสัญลักษณ์ธงชาติกัวเตมาลา บนแขนชุดเครื่องแบบของเจ้าหน้าที่กู้ภัย ซึ่งบ่งชี้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแต่อย่างใด 

ภาพธงชาติของประเทศกัวเตมาลา

สถานที่เกิดอุบัติเหตุไม่ใช่ที่ประเทศไทย

เกิดอุบัติเหตุที่สะพาน Puente Belice ประเทศกัวเตมาลา

เรื่องจริงเป็นอย่างไร

กรณีที่มีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งโพสต์อ้างว่า เกิดอุบัติเหตุรถบัสของไทยตกเหวลึก 50 เมตร มีผู้เสียชีวิต 36 คน และบาดเจ็บเกือบ 30 คน พร้อมแชร์ภาพเหตุการณ์และระบุวันที่ 6 ต.ค. 68 ตรวจสอบแล้วโดยนำภาพจากโพสต์ดังกล่าวค้นหาด้วย Google Lens พบว่าภาพตรงกับรายงานข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง เช่น AP, Al Jazeera, CNN, Reuters และ BBC ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 10–11 ก.พ. 68 ระบุว่าเป็นเหตุการณ์ รถโดยสารสาธารณะตกสะพานที่ประเทศกัวเตมาลา ดังนั้นภาพที่เผยแพร่เป็นเหตุการณ์เก่าจากต่างประเทศ ไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย

กระบวนการตรวจสอบ

  1. ตรวจสอบภาพโดย Google Lens: นำภาพจากโพสต์ที่อ้างว่ากิดอุบัติเหตุรถบัสของไทยตกเหวลึก 50 เมตร ที่ประเทศไทยไปตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือค้นหาภาพ Google Lens พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ รถโดยสารสาธารณะตกสะพานที่ประเทศกัวเตมาลา ซึ่งเผยแพร่ช่วงระหว่างวันที่ 10-11 ก.พ. 68 ดังนั้นภาพที่เผยแพร่เป็นเหตุการณ์เก่าจากต่างประเทศ ไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย  และเมื่อนำภาพที่ค้นหาจาก Google Lens ที่ตรงกับรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศมาเปรียบเทียบกับโพสต์ที่อ้างว่าเป็นเหตุการณ์ในประเทศไทยนั้น พบว่าตราสัญลักษณ์ธงชาติบนแขนเสื้อของกู้ภัย คือ ธงชาติกัวเตมาลา
  2. แผนที่ Google Map: เมื่อนำแสดงที่ในเนื้อหารายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศที่ระบุว่า เกิดอุบัติเหตุที่สะพาน Puente Belice ประเทศกัวเตมาลา บ่งชี้ว่าไม่ใช่ประเทศไทย

ผลกระทบจากการรับข้อมูลเท็จ

  1. สร้างความตื่นตระหนกและเข้าใจผิดในสังคม เมื่อข้อมูลเท็จเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น อุบัติเหตุหรือภัยพิบัติ อาจทำให้ประชาชนตกใจ เชื่อว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในประเทศ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง
  2. ลดความเชื่อมั่นของประชาชนต่อข้อมูลออนไลน์ เมื่อข่าวเท็จแพร่หลายซ้ำ ๆ ทำให้ผู้บริโภคสื่อเริ่มไม่เชื่อถือข้อมูลบนโลกออนไลน์ ส่งผลให้การสื่อสารสาธารณะในสถานการณ์จริงอาจถูกมองข้ามหรือล่าช้า

ข้อแนะนำเมื่อได้ข้อมูลเท็จนี้ ?

  1. ตรวจสอบแหล่งที่มาก่อนเชื่อหรือแชร์ ดูว่าข้อมูลมาจากสำนักข่าวหรือหน่วยงานทางการหรือไม่ หากเป็นเพียงโพสต์จากบัญชีส่วนตัว ควรระวังและไม่รีบแชร์ต่อ
  2. ใช้เครื่องมือตรวจสอบภาพ เนื้อหาและสถานที่ เช่น Google Lens และ Google Map เพื่อตรวจสอบว่า ภาพถูกนำมาจากเหตุการณ์อื่น ประเทศอื่น หรือช่วงเวลาเก่าหรือไม่
  3. ไม่รีบแชร์ต่อแม้มีเจตนาดี แม้ต้องการแจ้งเตือนหรือช่วยกระจายข่าว แต่หากยังไม่แน่ใจในความถูกต้อง การแชร์ต่ออาจยิ่งทำให้ข้อมูลเท็จแพร่หลายมากขึ้น
  4. รายงานหรือแจ้งเตือนแพลตฟอร์ม หากพบโพสต์ที่เป็นข้อมูลเท็จ สามารถกด “รายงาน (Report)” บน Facebook หรือแพลตฟอร์มอื่น เพื่อช่วยลดการมองเห็นและหยุดการเผยแพร่ของข่าวปลอม