ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

มูลค่า “ความต่าง”และ “ตัวตน” “คำตอบ” ทำไม? งานคราฟต์ ถึงแพง

ไลฟ์สไตล์
15:06
69
มูลค่า “ความต่าง”และ “ตัวตน” “คำตอบ” ทำไม? งานคราฟต์ ถึงแพง
อ่านให้ฟัง
09:59อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ที่เน้นในเรื่องของ “ราคา” ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสินค้าที่ถูกผลิตโดยเครื่องจักร มักจะมีราคาที่ไม่แพง ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ ซึ่งมีให้เห็นได้อย่างหลากหลายตามแหล่งชอปปิงของไทย ในขณะที่งานฝีมือหรืองานที่ถูกสร้างขึ้นด้วยสองมือของมนุษย์อาจดูช้ากว่า และไม่ทันต่อความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในการควบคุมคุณภาพ บางครั้งชิ้นงาน 1 ชิ้น จะไม่เหมือนกันทุกชิ้น ทำให้การรักษามาตรฐานของสินค้าเป็นไปได้ยาก

แต่ทั้งนี้งานที่ผลิตโดยฝีมือ ในปัจจุบันกลับได้รับความนิยมสูงมากขึ้น ทั้งมีความปราณีตและคุณภาพสูง ถึงกระนั้นต้องแลกกับ “ราคาที่สูง” ขึ้นด้วย แต่สิ่งที่แฝงอยู่ในชิ้นงานเหล่านี้ คือ “คุณค่า” ที่ไม่สามารถประมาณค่าได้ด้วยตัวเลขเพียงอย่างเดียว

ด้วยชิ้นงานที่ผ่านกระบวนการคิด ออกแบบ และลงมือทำอย่างพิถีพิถันทีละขั้นตอน ไม่เพียงแต่แสดงถึงทักษะทางฝีมือ แต่ยังเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของช่างผู้สร้าง ชุมชนท้องถิ่น ตลอดจนวัฒนธรรมและความเชื่อที่หลอมรวมกันจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ดังนั้น งานคราฟต์จึงไม่ใช่แค่ของใช้หรือของตกแต่ง แต่คือมรดกทางวัฒนธรรมที่มีชีวิต สะท้อนตัวตนของผู้คนในแต่ละภูมิภาค และเป็นรากฐานสำคัญที่สามารถต่อยอดไปสู่มิติใหม่ของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในระดับโลก

งานคราฟต์ คือ อะไร ?

งานคราฟต์ หรือ งานหัตถกรรม คือ งานที่ถูกสร้างด้วย “มือ” เป็นงานศิลปะฝีมือที่เกิดจากความชำนาญ และความพิถีพิถันของช่าง ผสานความคิดสร้างสรรค์ และเทคนิคเฉพาะตัว เพื่อรังสรรค์ชิ้นงานที่มีเอกลักษณ์ สะท้อนวัฒนธรรม และวิถีชีวิตท้องถิ่น เป็นงานจากศิลปะพื้นบ้านที่พัฒนาสู่ผลงานประณีตของช่างฝีมือชั้นสูงในอดีต เพื่อแสดงฐานะและแบ่งแยกชนชั้น โดยแต่ละท้องถิ่นมีงานหัตถกรรมที่แตกต่างกันไป ตามรูปแบบของวัฒนธรรมตนเอง

แม้ "งานคราฟต์" จะเป็นงานทำมือเช่นเดียวกับ "งานแฮนด์เมด" แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้าง "งานแฮนด์เมด" คือ ผลงานที่ผลิตด้วยมือทุกชิ้น โดยไม่พึ่งพาเครื่องจักร มักมีกระบวนการที่ไม่ซับซ้อนเท่างานคราฟต์ แต่งานแฮนด์เมดแฝงไว้ด้วยความใส่ใจและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้สร้าง ในขณะที่ "งานฝีมือทั่วไป" นั้น แม้จะเป็นงานทำมือเช่นกัน แต่มักเป็นงานที่ไม่ซับซ้อนมากนัก ใช้รูปแบบหรือแพตเทิร์นที่ชัดเจน และไม่ต้องอาศัยทักษะเชิงลึก เมื่อเทียบกับงานคราฟต์ อย่างไรก็ตาม งานเหล่านี้ก็ยังเป็นผลงานที่มีคุณค่าและสะท้อนความตั้งใจของผู้ผลิตเช่นกัน

นายอนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย(SACIT)

นายอนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย(SACIT)

นายอนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย(SACIT)

นายอนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย กล่าว SACIT ได้ผลักดันงานแสดงสินค้าอย่างงาน Crafts ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 นับเป็นอีกหนึ่งงานแสดงสินค้าที่รวบรวมผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทย จากทั่วทุกภูมิภาคของไทย ซึ่งจะช่วยสร้างการรับรู้ ความตระหนักในคุณค่า และภูมิปัญญางานหัตถกรรมไทย กระตุ้นให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ สู่การพัฒนาต่อยอดในเชิงพาณิชย์

การถักทออดีตสู่อนาคต สะท้อนถึงความพยายามของ SACIT ในการยกระดับงานศิลปหัตถกรรมไทยให้ก้าวสู่ความเป็นสากล การผสมผสานดิไซน์และการปรับองค์ประกอบใหม่ ๆ เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่

อีกทั้งยังพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการจับมือ เดินเคียงข้างจากชุมชนสู่เมือง จากฝีมือสู่แบรนด์ จากท้องถิ่นสู่สากล เสมือนนักปั้นดาวแห่งหัตถศิลป์ไทย เพื่อให้ผลงานจากภูมิปัญญาไทยเหล่านี้ ยังคงอยู่และเติบโต เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง

เช่นเดียวกับ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายผลักดันสินค้าไทยให้เป็น Soft Power ของไทย กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการพัฒนา Soft Power โดยเฉพาะงานศิลปหัตถกรรมซึ่งมีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มสูง และเชื่อมโยงกับอัตลักษณ์ความเป็นไทยอย่างลึกซึ้ง เพราะงานหัตถกรรมควรเป็นสิ่งที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน มีความร่วมสมัย และน่าภาคภูมิใจเหมือนสินค้าแบรนด์เนมระดับโลก

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์

คุ้มค่า? หากจะจ่ายเงินซื้องานคราฟต์

แน่นอนว่า ผู้บริโภค หรือผู้ซื้ออาจจะเกิดคำถามในใจว่า ทำไม สินค้าอย่างงานคราฟต์ถึงมีราคาสูงกว่างานทั่วไป ในการรังสรรค์งานคราฟต์แต่ละชิ้น ต้องอาศัยฝีมือ ความทุ่มเท และประสบการณ์ ผ่านกระบวนการผลิตอันประณีตที่มีคุณภาพหลายขั้นตอน อย่างการทอผ้าหนึ่งผืน มีกระบวนการตั้งแต่เลือกเส้นด้าย ย้อมสี การทอ การแบบออกลาย เป็นต้น ซึ่งทุกขั้นตอนต้องอาศัยทักษะเฉพาะตัวและความอดทน ดังนั้นจะเห็นได้ว่า งานคราฟต์ที่ผลิตออกมาจึงมีราคาที่ค่อนข้างสูงและมีเพียงไม่กี่ชิ้น บางชิ้นงานอาจมีเพียงชิ้นเดียวในโลก

ทั้งนี้งานคราฟต์ 1 ชิ้น ได้เปี่ยมไปด้วยคุณค่าที่มีมากกว่าการเป็นเพียง “สิ่งของ” ด้วยจินตนาการและนวัตกรรมของช่างฝีมือที่ใช้การผสมผสานเรื่องราวท้องถิ่นเข้ากับเทรนด์สมัยใหม่ หรือการใช้วัสดุจากธรรมชาติที่แปลกใหม่ สร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์ สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้สร้างและชุมชน การผลิตที่จำกัดด้วยฝีมือมนุษย์ทำให้งานคราฟต์ไม่สามารถเร่งปริมาณได้เหมือนเครื่องจักร ต้นทุนจึงกระจุกอยู่ในชิ้นงานจำนวนน้อย ซึ่งยิ่งเพิ่มความหายากและมูลค่าสินค้าที่มากขึ้น นอกจากนี้งานคราฟต์ยังแฝงไปด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรมและจิตใจ ผ่านเรื่องราว ความทรงจำ ที่ทำให้ชิ้นงานแต่ละชิ้นมีความหมายลึกซึ้ง

เมื่อย้อนกลับมาพิจารณาเหตุผลที่ว่างานคราฟต์มีราคาสูง ก็จะพบว่าไม่ใช่เพราะต้นทุนวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว แต่เพราะทุกชิ้นงาน คือ ผลลัพธ์ของเวลา ความอดทน และความตั้งใจ เช่น ตุ๊กตาช้างคราฟต์ราคา 300 บาท อาจดูแพงกว่าตุ๊กตาช้างทั่วไปที่ผลิตด้วยเครื่องจักรและขายเพียง 100 บาท แต่สิ่งที่คุณได้จากตุ๊กตาคราฟต์ คือเอกลักษณ์ ลวดลายเฉพาะตัว การลงสีด้วยมือ ความละเอียดของฝีเข็ม หรือแม้กระทั่งเรื่องราวท้องถิ่นที่ถูกถ่ายทอดอยู่ในงาน

ซึ่งหากเปรียบเทียบในแง่คุณค่าแล้ว งานฝีมือเช่นนี้ไม่ได้เป็นแค่ของใช้ชั่วคราว แต่เป็นของสะสม หรือของขวัญที่มีความหมาย หรือแม้แต่เป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มในอนาคต

ดังนั้น หากถามว่า “คุ้มค่าหรือไม่?” เมื่อต้องจ่ายเงินซื้องานคราฟต์ คำตอบจึงขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณให้คุณค่ากับชิ้นงานเหล่านั้น หากคุณมองหาสิ่งของที่มีเรื่องราว มีตัวตน และมีความหมาย งานคราฟต์อาจไม่ใช่แค่คุ้มค่า แต่ยังมีคุณค่าทางใจที่หาไม่ได้จากสินค้าทั่วไป

จากสินค้าชุมชนสู่ Soft Power ไทย

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้เดินหน้าผลักดันนโยบาย Soft Power อย่างจริงจัง เพื่อนำพาอัตลักษณ์ไทยสู่เวทีโลก โดยชูคุณค่าในมิติทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และความคิดสร้างสรรค์เป็นหัวใจสำคัญ หนึ่งในกลไกที่โดดเด่นคือ “ศิลปหัตถกรรมไทย” ที่ไม่เพียงสะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่น แต่ยังสามารถต่อยอดไปสู่สินค้าไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไปจนถึงการสร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัย

ทั้งนี้รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ Soft Power มูลค่า 5,164 ล้านบาท แต่หากคำนวนงบประมาณจากเอกสารจะได้งบรวม 5,291,295,179 บาท (ซึ่งยังไม่รวมงบประมาณ Soft Power Forum อีก 90 ล้านบาท และ World Water Festival) โดยเน้นอุตสาหกรรม 11 สาขาได้แก่ สาขาเฟสติวัล สาขาอาหาร สาขาท่องเที่ยว สาขาภาพยนตร์ ละครและซี่รีส์ สาขากีฬา สาขาศิลปะ สาขาเกม สาขาแฟชั่น สาขาออกแบบ สาขาดนตรี และสาขาหนังสือ

ไม่ว่าจะเป็นงานคราฟต์ที่มีราคาสูง หรือสินค้าทั่วไปที่เข้าถึงง่าย การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าชิ้นใด ย่อมขึ้นอยู่กับมุมมอง ความต้องการ และคุณค่าที่แต่ละบุคคลให้ความสำคัญ เพราะความคุ้มค่า ไม่ได้มีแค่ตัวเลข แต่รวมถึงความรู้สึกและความผูกพันที่เรามีต่อชิ้นงานนั้นด้วย

อ้างอิง
https://www.dasta.or.th/th/article/663
https://policywatch.thaipbs.or.th/article/economy-9

อ่านข่าว:

 พิชัย หนุน “หัตถกรรมไทย” เทียบชั้น แบรนด์ดังระดับโลก หวังสร้างรายได้สู่ชุมชน

พลังแห่งลมปราณ หายใจถูกวิธี คีย์สำคัญสุขภาพกาย-ใจแข็งแรง

เปิดอกคุย "กลิ่นคนแก่" คู่มือดูแลตัวเองสำหรับผู้สูงอายุ