หนึ่งในประเด็นสำคัญ ในการอภิปรายนโยบายรัฐบาล คือการจี้ให้รัฐบาล ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีแรงงานคนใหม่ เร่งสะสางกรณีสำนักงานประกันสังคม หรือ สปส. เอาเงินของผู้ประกันตนไปลงทุนซื้ออาคาร สกาย 9 (SKYY9) ในราคาสูงถึง 7 พันล้านบาท ของส.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน
ทั้งที่ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการ กระทรวงมหาดไทย สมัยนายอนุทิน เป็นรองนายกฯควบรัฐมนตรีมหาดไทย สมัยรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้ข้อสรุปว่า อาคารแห่งนี้ มีมูลค่าเพียง 3.4-3.8 พันล้านบาท ต่ำกว่าราคาซื้อจริงถึงเท่าตัว
น.ส.รักชนก ได้หยิบยกเรื่องนี้มาอภิปราย และจี้ให้รัฐบาลทำความจริงให้กระจ่าง โดยเรียกร้องให้นำตัวผู้ทำผิดมาลงโทษ และเอาผิดทางวินัย ในกรอบเวลา 3 เดือน โดยไม่สนว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือข้าราชการระดับสูง ทำเอาคนใน ครม.สะดุ้งหลายคน
เพราะ สส.กทม.คนนี้ ได้เปิดรายชื่อบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อตึกสกาย 9 เช่น นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข ในฐานะอดีตเจ้าของอาคารสกาย 9 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรฯ และเป็นอดีต รมว.แรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ในฐานะอดีต รมว.แรงงาน ที่เคยลงนามคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ของกระทรวงแรงงาน รวมทั้งนายอนุทิน ซึ่งได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีตึก Skyy 9 เมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย สมัยรัฐบาลชุดก่อน
ความจริง น.ส.รักชนก แสดงท่าทีข้องใจตั้งแต่มีโผรายชื่อ ครม. ในการฟอร์มรัฐบาลของนายอนุทินใหม่ๆ ยังไม่ทันลงตัวว่า น่าจะมีเกี่ยวข้องหลายคน ทั้งตั้งปุจฉา จะเกี่ยวโยงไปถึงการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมที่กำลังจะมีขึ้นไม่นาน เพราะมีความพยายามจะล้มการเลือกตั้งบอร์ด แก้ระเบียบเรื่องการเลือกตั้งโดยคนในสำนักงานประกันสังคม แต่ไม่มีตัวแทนฝ่ายลูกจ้าง
ทั้งส่งสัญญาณเตือนถึงรมว.แรงงานคนใหม่ น.ส.ตรีนุช อย่าให้โดนข้าราชการต้ม ควรต้องออกระเบียบให้การเลือกตั้งใช้วิธีเดิม นอกจากนี้ การใช้เงินกองทุนผ่านการลงทุนต่าง ๆ ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ป้องกันไม่ให้เกิดกรณีชงเองกินเอง
ทำให้นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ ทายาทนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ต้องลุกขึ้นแจกแจง อ้างว่าคนในตระกูลพร้อมพัฒน์ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยบริษัท วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน จำกัด ที่เขาเคยเป็นผู้บริหาร และเป็นเจ้าของอาคาร สกาย 9 ได้ซื้ออาคารนี้มาตั้งแต่ปี 2560 ขณะยังเป็นอาคารร้าง ไม่สามารถใช้งานได้ ระหว่างถือครองเคยมีแผนจะปรับปรุงอาคารให้เป็นสำนักงานตามเดิม แต่ได้รับการทาบทามจากกลุ่มผู้สนใจลงทุนหลายกลุ่ม หนึ่งในนั้นคือ บริษัท เอจีอาร์อี 101 ที่ระบุว่าเป็นการระดมทุนโดยนักลงทุนจากต่างประเทศ
สุดท้ายได้ขายตึกดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2562 และได้โอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นผู้ซื้อจะขายต่อให้ใคร เป็นเรื่องของเขา ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้จากข้อมูลที่ น.ส.รักชนก ถืออยู่ในมือตั้งแต่แรก คืออาคารสกาย 9 ไม่ใช่ตึกใหม่ แต่เป็นตึกร้างมาตั้งแต่สมัยต้มยำกุ้ง ก่อนจะมีบริษัทเอกชนเข้าไปซื้อเพื่อปรับปรุง (รีโนเวตใหม่) แบบประจวบเหมาะพอดี กับกองทุนประกันสังคมมีปรับแก้ระเบียบต่าง ๆ
ก่อนเป็นที่มาของการตัดสินใจลงทุนซื้ออาคารดังกล่าว ในช่วงปลายปี 2565 โดยมีการจัดทำแผนโครงการสวยหรูเกินจริง แต่ในทางปฏิบัติ ปีแรก มีผู้เช่าเพียง 1-2 % แต่หลังจากนั้น 2 ปี ตัวเลขที่ สปส.รายงาน กลับมีผู้เช่าปัจจุบัน 40 % แต่ต้องสงสัยว่าเบ่งตัวเลขให้ดูดีหรือไม่ เพราะตัวเลขจริง อาจอยู่ที่ 20-30 % เท่านั้น
ก่อนหน้านี้ ในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน คือนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เสนอ ครม.ให้ความเห็นชอบย้ายนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ซึ่งเป็นอดีตเลขาธิการ สปส. ในช่วงที่สปส.ซื้ออาคารสกาย 9 ไปเป็นผู้ตรวจราชการพิเศษ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลว่า เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างราบรื่น และปฏิเสธไม่เกี่ยวกับเรื่องซื้ออาคารสกาย 9 โดยระบุว่า ยังไม่มีการชี้ชัดว่า ใครมีความผิดแล้วหรือไม่
การเปิดประเด็นซื้ออาคารสกาย 9 แพงกว่าราคาจริงหนึ่งเท่าตัว นำไปสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนอย่างรุนแรง เพราะเป็นการนำเงินของผู้ประกันตนไปใช้ประโยชน์โดยไม่ถูกต้องเหมาะสม กระทั่งทั้งกระทรวงมหาดไทย ที่นายอนุทิน เป็นรัฐมนตรีอยู่ และกระทรวงแรงงาน ที่นายพิพัฒน์ เป็นรัฐมนตรีได้สั่งตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ และผลสรุปของกระทรวงมหาดไทย คือมูลค่าจริงไม่ถึง 4 พันล้านบาท
จึงน่าสนใจว่าแกนนำสำคัญ 2 คนดังกล่าวในพรรคภูมิใจไทย ตอนนี้อยู่ในรัฐบาล และมีตำแหน่งใหญ่โตขึ้นทั้งคู่ และนายอุทิน กำลังแสดงบทบาทผู้นำที่มีวุฒิภาวะ และล่าสุดได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ยืนยันจะทำหน้าที่ในกรอบเวลา 4 เดือนอย่างเต็มที่ เพื่อให้เป็นเกียรติประวัติ
ดังนั้น จะเดินหน้าสะสางหรือสั่งการเรื่องนี้อย่างจริงจังต่อเนื่องหรือไม่ หรือจะปล่อยให้เผือกร้อนนี้ ลวกมือรัฐมนตรีแรงงานคนใหม่ น.ส.ตรีนุช จนมือพองอยู่คนเดียว
หรือทั้งหมด จะยินยอมพร้อมใจ ให้เผือกร้อนอยู่ในเตาไฟต่อไป โดยไม่มีใครกล้าไปหยิบจับเลย
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : "โสภณ" ลั่นกัญชาจบแล้ว โชว์แผน 4 เฟสแก้ปัญหายาเสพติด
ผู้เสียหายคดีดิไอคอนยื่นฟ้องแพ่งแบบกลุ่ม เรียกค่าเสียหาย 6,000 ล้าน
“วรวัจน์” อัด “อนุทิน-ธรรมนัส” เปิดช่องนำเข้าพืช GMOs ทำลายระบบเกษตรไทย