ภายในงาน "Broadcast Asia 2025" ปีนี้ ได้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมสื่อในเอเชีย ซึ่งกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้อิทธิพลของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
แพลตฟอร์ม OTT (Over-the-Top) เติบโตอย่างก้าวกระโดด ผู้บริโภคหันหลังให้กับการรับชมแบบเดิม และหันมารับชมคอนเทนต์ผ่านอุปกรณ์ส่วนตัว บริการสตรีมมิ่ง รวมถึงวิดีโอออนดีมานด์ (VOD) แทน
พร้อมกันนี้ เทคโนโลยีอย่าง AI (Artificial Intelligence) และระบบ Cloud ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลิตและกระจายเนื้อหาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น องค์กรผู้ผลิตสื่อและแพลตฟอร์มต่าง ๆ จำเป็นต้องเร่งปรับตัว เพื่อให้สามารถแข่งขัน และตอบสนองความต้องการของผู้ชมในยุคดิจิทัลได้อย่างทันเกม


AI : เสริมพลังการผลิตและการจัดการคอนเทนต์
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงาน Broadcast Asia 2025 คือการนำเสนอศักยภาพของ AI ในการเปลี่ยนโฉมกระบวนการผลิตสื่ออย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นระบบตัดต่อวิดีโออัตโนมัติ การสร้างคำบรรยายอัจฉริยะ การตรวจจับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ไปจนถึงการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ชมแบบเรียลไทม์ ทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถนำเสนอคอนเทนต์ที่ "ตรงใจ" และ "เฉพาะตัว" ได้มากขึ้น
ในฝั่งของฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์ Broadcast ก็ได้นำ AI มาช่วยยกระดับการทำงาน โดยเฉพาะด้านกราฟิก การวิเคราะห์ภาพ และระบบ automation ที่ช่วยลดภาระของทีมงาน และเพิ่มความแม่นยำในการนำเสนอภาพและข้อมูลสด


OTT : พลิกเกมการรับชมสู่ประสบการณ์แบบไร้ขีดจำกัด
ในยุคที่ผู้ชมต้องการเสพคอนเทนต์ "ทุกที่ ทุกเวลา" แพลตฟอร์ม OTT จึงกลายเป็นหัวใจใหม่ของอุตสาหกรรมการออกอากาศ ผู้ผลิตสื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนแนวคิดจากระบบ Linear Broadcast แบบเดิม ไปสู่ Multi-Platform Streaming ที่รองรับอุปกรณ์หลากหลายและสามารถสื่อสารกับผู้ชมแบบสองทาง
ตั้งแต่รูปแบบคอนเทนต์ การบริหารลิขสิทธิ์ ไปจนถึงระบบ backend ที่รองรับการสตรีมคุณภาพสูงพร้อมการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเจาะลึก ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องลงทุนพัฒนา โดยในงานปีนี้มีผู้แสดงแพลตฟอร์ม OTT หน้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน สะท้อนถึงการแข่งขันที่เข้มข้นและศักยภาพของตลาดที่ยังเติบโตได้อีกมาก

Cloud และ CDN : เบื้องหลังของการสตรีมที่ไร้รอยต่อ
เพื่อรองรับความต้องการรับชมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โครงสร้างพื้นฐานระบบ Cloud และเครือข่าย CDN (Content Delivery Network) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญยิ่งในการส่งมอบคอนเทนต์ให้มีคุณภาพสูงและเสถียรแม้ในช่วงที่มีผู้ชมจำนวนมาก
ระบบ Cloud-based broadcasting ช่วยให้การผลิตรายการสามารถควบคุมจากระยะไกล ลดต้นทุน และเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน ส่วน CDN ทำหน้าที่กระจายโหลด ลด latency และรักษาคุณภาพการสตรีมอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดสดระดับโลก หรือรายการไลฟ์สดขนาดเล็ก


ฮาร์ดแวร์ขนาดเล็กและการผลิตเนื้อหาแนวตั้ง : ยืดหยุ่น คล่องตัว และทันสมัย
อุปกรณ์ออกอากาศในยุคใหม่ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กลง ใช้งานสะดวก และพร้อมเชื่อมต่อกับระบบ Cloud ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นกล้อง IP, encoder แบบพกพา หรือ control panel ที่ควบคุมผ่านแท็บเล็ต นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์เฉพาะทางสำหรับการผลิตวิดีโอแนวตั้งเพื่อตอบโจทย์แพลตฟอร์มโซเชียลอย่าง TikTok และ Instagram
ที่น่าสนใจคือการนำเสนอ ระบบกล้องหุ่นยนต์แบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ทีมงานขนาดเล็กสามารถผลิตงานระดับมืออาชีพได้จากทุกที่ ลดข้อจำกัดเรื่องงบประมาณและจำนวนคน




4K 60fps และ HDR : มาตรฐานใหม่ของการออกอากาศ
อีกหนึ่งหัวข้อสำคัญที่ได้รับความสนใจในงานปีนี้ คือ 4K 60fps และ HDR ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของ “คุณภาพในการรับชม” ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดสด กีฬา คอนเสิร์ต หรือคอนเทนต์ออนไลน์ทั่วไป ผู้ชมในยุคนี้เริ่มคาดหวังความคมชัดสูง ภาพเคลื่อนไหวลื่นไหล และสีสันที่สมจริง ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถตอบโจทย์ได้ครบถ้วน
ารเปลี่ยนผ่านสู่การออกอากาศในระดับ 4K HDR ไม่เพียงต้องอาศัยอุปกรณ์ที่รองรับ แต่ยังรวมถึงโครงสร้างการผลิต การส่งสัญญาณ และการบริหารจัดการเนื้อหาแบบครบวงจร

สู่อนาคตของ Broadcast : ไม่ใช่แค่ "การส่งสัญญาณ" แต่คือ “ประสบการณ์”
Broadcast Asia 2025 ไม่ได้เป็นเพียงเวทีแสดงเทคโนโลยีล้ำสมัยเท่านั้น แต่ยังสะท้อนแนวคิดใหม่ของอุตสาหกรรมว่า การออกอากาศสมัยใหม่ไม่ได้หมายถึงแค่การส่งสัญญาณภาพและเสียง หากแต่เป็นการ “มอบประสบการณ์แบบไร้รอยต่อผ่านทุกแพลตฟอร์ม”
AI, OTT, Cloud, CDN รวมถึง 4K HDR ต่างกลายเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนยุคใหม่ของการสื่อสาร และผู้ที่ปรับตัวได้ก่อน จะเป็นผู้นำในสมรภูมิแห่งคอนเทนต์ยุคดิจิทัลนี้
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
ยุคใหม่ของอุตสาหกรรมสื่อ เมื่อเทคโนโลยีไม่ใช่ทางเลือก แต่คือความจำเป็น
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech