โลกร้อนสู่โลกเดือด อุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส กำลังสร้างผลกระทบต่อโลกมากมาย โดยมีประเด็นเกี่ยวเนื่องต่อจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเล การละลายของธารน้ำแข็ง ที่อาจทำให้เกิด “แผ่นดินไหว” บ่อยขึ้นได้ ทำไมจึงอาจเป็นเช่นนั้นเราพาไปหาคำตอบ
ในเรื่องนี้ ดร.สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้ให้ความรู้ผ่านเฟซบุ๊ก “Sonthi Kotchawat” (https://shorturl.at/Uin0a) ไว้ว่า

1. แผ่นดินไหวที่ใหญ่ที่สุดและอันตรายที่สุดคือแผ่นดินไหวที่เกิดจากแผ่นเปลือกโลก
แผ่นดินไหวเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากแผ่นเปลือกโลก ซึ่งเป็นแผ่นหินขนาดใหญ่ที่ประกอบขึ้นเป็นเปลือกโลกและชั้นแมนเทิล หรือส่วนบนที่มีความร้อนที่แผ่มาจากส่วนลึกของโลก เกิดการเคลื่อนที่โดยเฉลี่ยครึ่งนิ้ว (1.5 เซนติเมตร) ต่อปี เกิดการเสียดสีกันขึ้น และเกิดความดันหรือความเครียดสะสม จนถึงจุดแตกหักที่แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่อย่างฉับพลันก็จะปลดปล่อยพลังงานออกมาทำให้เกิดแผ่นดินไหว การคาดการณ์ว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นเมื่อใดนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ ทำให้การวางแผนอพยพเป็นไปได้ยากมาก
2. ความเชื่อมโยงระหว่างสภาพภูมิอากาศและความเครียดจากแผ่นดินไหว
โดยพื้นฐานแล้ว แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อความดันสะสมตามแนวรอยเลื่อนแล้วปลดปล่อยออกมาอย่างฉับพลัน แต่แรงจากพื้นผิวก็มีบทบาทเช่นกัน เมื่อมวลขนาดใหญ่ เช่น ธารน้ำแข็ง หิมะ หรือน้ำทะเลเคลื่อนตัวหรือละลาย พวกมันจะเปลี่ยนแปลงการกระจายตัวของแรงเค้นใต้ดินอย่างละเอียดอ่อน เมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ความดันใต้น้ำบนพื้นทะเลก็จะสูงขึ้นด้วย เมื่อความดันน้ำเพิ่มสูงขึ้น ความดันบนรอยเลื่อนใกล้ชายฝั่งก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

3. นักวิจัยพบว่าการละลายของธารน้ำแข็งในยุคน้ำแข็งดูเหมือนจะทำให้แผ่นดินไหวในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นถึงห้าเท่า
ในเทือกเขาซานเกร เดอ คริสโต (Sangre de Cristo Mountains) รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา รูปแบบที่คล้ายกันนี้ปรากฏขึ้นในอลาสกาและตามแนวเทือกเขาแอลป์ นักวิทยาศาสตร์จาก MIT พบว่าหิมะและฝนที่ตกหนักเพิ่มความดันใต้ดินในคาบสมุทรโนโตะของญี่ปุ่นมากพอที่จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กหลายครั้ง
4. ประมาณ 23% ของแผ่นดินไหวที่เกิดจากฝีมือมนุษย์เกี่ยวข้องกับเขื่อน
น้ำจะซึมเข้าไปในรอยแตกใต้ดินและเพิ่มแรงดันบนรอยเลื่อน การหล่อลื่นที่เพิ่มขึ้นนี้สามารถผลักดันให้รอยเลื่อนเคลื่อนตัว ทำให้เกิดแผ่นดินไหว ในปี 1975 เขื่อนโอโรวิลล์ (Oroville Dam) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ประสบกับแผ่นดินไหวขนาด 5.7 ริกเตอร์ และเขื่อนฮูเวอร์บันทึกการสั่นสะเทือนเล็ก ๆ หลายร้อยครั้งในช่วงปีแรก ๆ ที่สำคัญที่สุด อ่างเก็บน้ำจือผิงปู (Zipingpu Reservoir) ในประเทศจีน น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวเสฉวนในปี 2008 ซึ่งคร่าชีวิต-สูญหายเกือบ 90,000 คน
5. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรงของการเกิดแผ่นดินไหว
แต่สามารถทำให้สมดุลเปลี่ยนแปลงไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการละลายของธารน้ำแข็งที่ลดภาระบนรอยเลื่อน ปริ มาณน้ำฝนที่เพิ่มแรงดันใต้ดิน หรือระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อแผ่นเปลือกโลกชายฝั่ง
คอนเทนต์เกี่ยวข้องที่น่าสนใจ
📌อ่าน : “โลกร้อนขึ้น” เกิดพายุหมุนจำนวนมาก-รุนแรงขึ้น ไม่ปรับตัวอยู่ยากขึ้น
📌อ่าน : เข้าใจการเกิด “เอลนีโญ” เพื่อร่วมลดความรุนแรงปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่ทุกคนช่วยได้
📌อ่าน : ไขคำตอบ เอลนีโญ-ลานีญา ความต่างที่สุดขั้ว
📌อ่าน : นับวันยิ่งวิกฤติ! ปัญหา “น้ำท่วม กทม.” คิดใหม่..ควรทำอย่างไรดี?
📌อ่าน : 4 สาเหตุหลัก “น้ำท่วมหนัก” หลายจังหวัดภาคเหนือ
📌อ่าน : “ไทย” อันดับ 4 ของโลก เสี่ยงถูกน้ำท่วมหนักปี 2050 “กรุงเทพฯ” อาจจมน้ำเกือบทั้งหมด
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech




















