EN

แชร์

Copied!

ตรวจสอบแล้ว: โพสต์อ้างทรัมป์เสียชีวิต ทำเนียบขาวยืนยัน ปธน.เพียงป่วยโรคหลอดเลือดดำ

11 ก.ย. 6818:43 น.
รอบโลก#ข่าวปลอม
ตรวจสอบแล้ว: โพสต์อ้างทรัมป์เสียชีวิต ทำเนียบขาวยืนยัน ปธน.เพียงป่วยโรคหลอดเลือดดำ

พบทวิตเตอร์แชร์ภาพพร้อมข้อความอ้าง ประธานาธิบดีทรัมป์เสียชีวิต ขณะที่ทำเนียบขาวออกมาปฏิเสธ ยืนยันทรัมป์ป่วยด้วยภาวะหลอดเลือดดำเพียงเท่านั้น

Thai PBS Verify พบแหล่งที่มาข่าวปลอมจาก : X

ตรวจสอบแล้ว: โพสต์อ้างทรัมป์เสียชีวิต ทำเนียบขาวยืนยัน ปธน.เพียงป่วยโรคหลอดเลือดดำ

บัญชีทวิตเตอร์แชร์ภาพพร้อมข้อความแสดงความเสียใจต่อการจากไปของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

Thai PBS Verify ตรวจสอบพบบัญชีทวิตเตอร์แชร์ภาพ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระบุว่า “Donald Trump dead at age 79. May his soul rest in peace. Official update from white house page” แปลข้อความได้ว่า “โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ด้วยวัย 79 ปี ขอให้ดวงวิญญาณของเขาไปสู่สุคติ อัปเดตอย่างเป็นทางการจากเพจทำเนียบขาว” เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้ชม 6,612 คร้ั้ง 

ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์  whitehouse

ทั้งนี้เมื่อทำการตรวจสอบบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของทำเนียบขาว หรือ  The White House กลับไม่ปรากฏว่ามีประกาศหรือข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

ภาพข่าวจากเว็บไซต์ whitehouse ช่วงวันที่ 29 ส.ค. - 1 ก.ย. 68

ภาพข่าวจากเว็บไซต์ whitehouse ช่วงวันที่ 29 ส.ค. – 1 ก.ย. 68

ขณะที่ในวันเดียวกัน  Thai PBS Verify พบมีการนำเสนอข่าว Trump suffering from severe illness? US President’s new hand bruise photos ignite health speculation  แปลความหมายว่า “ทรัมป์กำลังเผชิญกับอาการป่วยรุนแรงหรือไม่? ภาพถ่ายรอยฟกช้ำใหม่ที่มือของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จุดกระแสคาดเดาเรื่องสุขภาพ”  ของสำนักข่าว  The Economic Times

ตรวจสอบแล้ว: โพสต์อ้างทรัมป์เสียชีวิต ทำเนียบขาวยืนยัน ปธน.เพียงป่วยโรคหลอดเลือดดำ

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 68  โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแถลงประเด็นกรณีที่มีการนำเสนอที่อ้างว่าตนเองเสียชีวิตว่าไม่เป็นความจริง

ตรวจสอบแล้ว: โพสต์อ้างทรัมป์เสียชีวิต ทำเนียบขาวยืนยัน ปธน.เพียงป่วยโรคหลอดเลือดดำ

นักวิชาการชี้ ข่าวลือสุขภาพผู้นำสหรัฐฯ กระทบความเชื่อมั่น

ดร.ประพีร์ อภิชาติสกล อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า ข่าวลือเรื่องสุขภาพของผู้นำมักถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะเมื่อมีการพูดถึงความเจ็บป่วยหรือความอ่อนแอ ก็จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนทันที เช่น ในกรณีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ถูกจับตามองเรื่องเท้าบวม มือช้ำ และอายุที่มากขึ้น ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความแข็งแรงในการทำหน้าที่ ทั้งที่ตามปกติแล้วประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องตรวจสุขภาพประจำปีและเปิดเผยผลต่อสาธารณะเพื่อสร้างความมั่นใจ

ดร.ประพีร์ อภิชาติสกล อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ดร.ประพีร์ อภิชาติสกล อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ที่ผ่านมา เห็นได้ว่าการโจมตีเรื่องสุขภาพไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะแม้แต่ผู้นำหรือผู้บริหารองค์กรใหญ่ ๆ ก็เลือกที่จะปกปิดโรคร้ายแรง เนื่องจากการเปิดเผยอาจทำให้องค์กรสั่นคลอนได้ เช่นเดียวกับกรณีของทรัมป์ในอดีต ที่เคยถูกพูดถึงเมื่อป่วยโควิดและเข้าโรงพยาบาล

ในทางการเมือง หากเกิดการเปลี่ยนแปลงจริง เช่น หากทรัมป์ไม่สามารถทำหน้าที่ต่อได้ ผู้ที่จะขึ้นมารับตำแหน่งต่อคือรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ ซึ่งอาจเผชิญแรงกดดันและผลกระทบมากกว่าทรัมป์ เพราะทั่วโลกจับตาท่าทีของผู้นำสหรัฐฯ  ดังนั้นการติดตามข่าวสารจากแหล่งทางการอย่างเว็บไซต์ทำเนียบขาวจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลถูกต้องและไม่ตกเป็นเหยื่อข่าวลือ

กระบวนการแต่งตั้งผู้นำใหม่หากประธานาธิบดีเสียชีวิต

ทั้งนี้เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐเสียชีวิต รองประธานาธิบดีจะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีทันทีตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ และ 25th Amendment, Section 1 โดยไม่ต้องมีช่วงเวลารักษาการ หรือรอการโหวตจากสภา ทั้งนี้จะมีพิธีสาบานตนโดย Chief Justice หรือผู้พิพากษาศาลสูงสุดเพื่อความเป็นทางการ เช่น กรณีปี 1963 ที่ Lyndon B. Johnson สาบานตนบนเครื่องบิน Air Force One หลังการลอบสังหาร JFK ภายในไม่กี่ชั่วโมง การประกาศการเสียชีวิตจะเกิดขึ้นทันทีที่แพทย์และเจ้าหน้าที่รัฐยืนยัน โดยทำเนียบขาวออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ สื่อมวลชนรายงานโดยตรง และหลังการสาบานตน รองประธานาธิบดีที่ขึ้นดำรงตำแหน่งใหม่จะออกแถลงการณ์ต่อประชาชนและนานาชาติ ซึ่งการสาบานตนและการประกาศตำแหน่งใหม่นี้มักเกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเหตุการณ์ เพื่อป้องกันสุญญากาศทางอำนาจ โดยการถ่ายทอดสดผ่านสื่อระดับชาติ เว็บไซต์ Whitehouse.gov และช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ของทำเนียบขาว

เรื่องจริงเป็นอย่างไร?

Thai PBS Verify  ตรวจสอบพบว่า เป็นข่าวปลอม เนื่องจากในภายหลัง “ประธานาธิบดีทรัมป์” ได้ออกมาปฏิเสธด้วยตัวเอง ขณะที่นักวิชาการ ระบุว่า ประเด็นอ้างประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาเสียชีวิตเป็นข่าวปลอมที่สร้างขึ้นเพื่อโจมตี โดนัลด์ ทรัมป์  

กระบวนการตรวจสอบ

  1. ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ทางการ เช่น The White House ซึ่งไม่พบมีการประกาศเรื่อง ประธานาธิบดีทรัมป์เสียชีวิต

ผลกระทบเมื่อได้รับข้อมูลเท็จ

  1. สร้างความสับสนและความตื่นตระหนก: ข่าวปลอมเกี่ยวกับการเสียชีวิตของบุคคลสำคัญระดับโลก เช่น ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สามารถสร้างความสับสนและตื่นตระหนกให้กับประชาชนและตลาดการเงินได้ เนื่องจากผู้คนอาจรีบแชร์ข้อมูลโดยไม่ได้ตรวจสอบ ทำให้ข่าวลือแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
  2. ทำลายความน่าเชื่อถือของสื่อและข้อมูล: เมื่อมีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ผู้คนอาจเริ่มตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าวต่างๆ รวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้การแยกแยะข้อมูลจริงและข้อมูลเท็จทำได้ยากขึ้น
  3. ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน: ในบางกรณี ข่าวปลอมเกี่ยวกับบุคคลสำคัญทางเศรษฐกิจหรือการเมืองอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ราคาหุ้นหรือค่าเงินผันผวนได้
  4. เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือน: การสร้างข่าวปลอมเช่นนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือน (Disinformation) หรือการสร้างความเข้าใจผิดทางการเมือง เพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่าง

ข้อแนะนำเมื่อได้ข้อมูลเท็จนี้ ?

  • ตรวจสอบจากเว็บไซต์ทางการ : ตรวจสอบเว็บไซต์ทางการของบุคคลหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น ในกรณีนี้คือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของทำเนียบขาว (White House) เพื่อดูว่ามีประกาศใดๆ หรือไม่ 
  • สังเกตความผิดปกติในเนื้อหา: เช่น ภาพและวิดีโอที่ใช้ประกอบอาจมีการตัดต่อหรือถูกนำมาจากเหตุการณ์อื่นที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง และความรุนแรงของเนื้อหาโดยข้อมูลเท็จมักจะใช้ถ้อยคำที่รุนแรง น่าตกใจ หรือสร้างความรู้สึกร่วม เพื่อกระตุ้นให้คนแชร์ต่อ