EN

แชร์

Copied!

ตรวจสอบแล้ว: คลิปอ้างสองผู้ประกาศชื่อดัง “กิตติ-กรรชัย” รายงานข่าวยารักษาภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ที่แท้ AI Deepfake

30 ก.ย. 6820:44 น.
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี#ข่าวปลอม
ตรวจสอบแล้ว: คลิปอ้างสองผู้ประกาศชื่อดัง “กิตติ-กรรชัย” รายงานข่าวยารักษาภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ที่แท้ AI Deepfake

ระวัง! คลิปปลอม AI Deepfake ลงโฆษณาใน TikTok อ้าง "ข่าว 3 มิติ - กรรชัย" รายงานข่าวยารักษาภาวะน้ำตาลในเลือดสูง กินแล้วกลับมากินของหวาน-ดื่มสุรา ได้อีกครั้ง Thai PBS Verify ตรวจสอบแล้วเป็นเพียงคลิปปลอม ลวงซื้อสินค้าไร้อย. เสี่ยงข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล

ภาพของผู้ดำเนินรายการข่าว 3 มิติ นายกิตติ สิงหาปัด รายงานข่าวสรรพคุณยารักษาภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ถูกเผยแพร่ผ่านโฆษณาใน TikTok โดยข่าวดังกล่าวระบุถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ยี่ห้อหนึ่ง ที่สามารถทำให้ผู้ป่วยภาวะน้ำตาลในเลือดสูง สามารถทานอาหารได้อย่างไม่ต้องจำกัด ไม่ว่าจะเป็น ข้าว, ของหวาน รวมไปถึงสุรา หากสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปรับประทาน

Thai PBS Verify พบแหล่งที่มาจาก : TikTok

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงโฆษณาปลอมจาก AI Deepfake

คลิปปลอมลวงขายสินค้าไม่มีรายละเอียด

Thai PBS Verify ตรวจสอบลิงก์ที่คลิปดังกล่าวแนบไว้ พบว่า ลิงก์ดังกล่าวนำไปสู่เว็บไซต์อีกหนึ่งเว็บไซต์ ซึ่งภายในมีภาพของสินค้าที่อ้างว่าเป็นผลิตภัณฑ์รักษาภาวะน้ำตาลในเลือดสูง จำหน่ายตั้งแต่ราคา 699 , 899 และ 1,099 บาท โดยผู้ซื้อจะต้องระบุ ชื่อ-นามสกุล, เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่อย่างละเอียด แต่เมื่อค้นหารายละเอียดของสินค้า หรือเลข อย. กลับไม่มีการแสดงให้เห็นแต่อย่างใด

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงเว็บไซต์ของผลิตภัณฑ์ที่คลิปปลอม AI Deepfake กล่าวถึง

ผลตรวจสอบยืนยันสร้างจาก AI

ทั้งนี้นำภาพดังกล่าวมาตรวจสอบด้วยเครื่องมือตรวจสอบภาพ AI จากเว็บไซต์ HIVEMODERATION ซึ่งผลการตรวจสอบด้วยเครื่องมือตรวจสอบ AI พบว่า วินาทีที่ 3 ของคลิปดังกล่าว มีความเป็นไปได้ถึง 57.9% ที่ภาพดังกล่าวถูกสร้างจาก AI

ผลการตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ Hivemoderation พบ 57.9% ภาพวิดีโอถูกสร้างจาก Deepfake

ใช้ข่าวเก่าสร้าง AI Deepfake 

นอกจากนี้เมื่อนำคลิปดังกล่าวมาตรวจสอบพบว่า ภายในคลิปเป็นการรายงานข่าว “โจรกรรมไฟฟ้าขุดบิตคอยน์” ซึ่งเมื่อทำการตรวจสอบด้วยคำสำคัญ “โจรกรรมไฟฟ้าขุดบิตคอยน์” พบ “คลิปของรายการข่าว 3 มิติ” ซึ่งเป็นการรายงานข่าว “แก๊งลอบต่อสาย ใช้ไฟฟ้าแรงสูงขุดบิตคอยน์ เสียหายเดือนละหลักล้าน” ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 67 ตรงกับคลิปที่ถูกนำมาทำ AI Deepfake

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงคลิปรายการข่าว 3 มิติ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 67 (ซ้าย) เปรียบเทียบกับ คลิปปลอมจาก TikTok (ขวา)

ใช้คนดังสร้างความน่าเชื่อถือ

นอกจากการใช้ภาพรายการข่าว 3 มิติ มาใช้ในการทำ AI Deepfake แล้ว เรายังพบการใช้ภาพจากรายการ “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” โดยใช้ภาพของผู้ประกาศชื่อดัง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” มาทำ AI Deepfake รายงานข่าว อ้างว่า แคปซูลยี่ห้อหนึ่ง สามารถช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด โดยระบุข้อความว่า “น้ำตาลในเลือดสูงไม่ต้องกลัว เทคโนโลยีใหม่ปี 2025 ง่าย ประหยัด และได้ผลจริง ทั่วโลกจะขอบคุณแคปซูล สำหรับการปรับระดับน้ำตาลในเลือด

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงคลิป AI Deepfake แอบอ้างรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์

จากการตรวจสอบด้วย Google Lens พบว่าคลิปดังกล่าวเป็นการรายงานข่าว “หนุ่ม กรรชัย” แจงเหตุไม่ทำข่าว “แตงโม” ยันไม่มีใครบงการ แต่เป็นหนึ่งในพยาน หวั่นละเมิดอำนาจศาล ที่เผยแพร่ผ่าน TikTok  ของช่อง 3PlusNews  ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา

ภาพบันทึกหน้าจอจากช่อง TiKTok 3PlusNews (ซ้าย) เปรียบเทียบกับ คลิปปลอม AI Deepfake (ขวา)

เสียงจากตัวจริงยืนยันอย่าหลงเชื่อ

เราตรวจสอบไปยัง คุณกิตติ สิงหาปัด ผู้สื่อข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าว 3 มิติ ระบุว่า ขณะนี้ตัวเองได้มอบหมายให้ตัวแทนไปแจ้งความกับตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ทำคลิปดังกล่าว ซึ่งเป็นการแจ้งความ 2 วัตถุประสงค์ คือ 1.การนำเสียงไปดัดแปลงตัดต่อ หรือใช้ AI ทำคลิปขึ้นมา อีกวัตถุประสงค์คือ ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบว่า เจ้าของ Account เป็นคนไทย หรือคนต่างประเทศ เพื่อหาทางจับกุมกลุ่มคนเหล่านี้ให้ได้

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

กิตติ สิงหาปัด ผู้สื่อข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าว 3 มิติ

ที่ผ่านมาในช่วงแรก ๆ ตนเคยถูกนำภาพไปสร้างเพจปลอม แต่ในช่วงหลังกลับมีการทำเป็นคลิป AI Deepfake ขึ้นมาหลอกลวงว่า ดาราต่าง ๆ เสียชีวิต ซึ่งตนกลัวว่า วันหนึ่งดาราเหล่านั้นอาจไปแจ้งตำรวจ ว่าตนเป็นผู้ไปอ่านข่าวนั้นจริง ๆ ซึ่งอาจจะทำให้ตนเองได้รับความเดือดร้อน จึงต้องแจ้งความเอาไว้เป็นหลักฐาน

สำหรับคลิปเหล่านี้ถือว่า เป็นด้านลบของเทคโนโลยี ซึ่งสำหรับตนเองถือว่า ถูกกระทำมาเยอะจนรู้สึกไม่ไหวกับวิธีการเหล่านี้ โดยที่ผ่านมาตนเองเคยตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ จนพบว่ากลุ่มที่ทำเรื่องเหล่านี้ มีการจด IP Address ไว้ในต่างประเทศจำนวนหลายพัน IP ซึ่ง Server เหล่านี้ล้วนอยู่ในจีน หรือกัมพูชา ซึ่งล้วนแต่มีคนไทยที่เป็นผู้ดำเนินการให้ จึงไม่สามารถที่จะปิดเว็บไซต์เหล่านี้ได้ และถ้าหากถูกจับได้ ก็จะมีการเปลี่ยนไปใช้ IP อื่นต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้ไม่จบลงง่าย ๆ อีกทั้งมิจฉาชีพเหล่านี้ก็เก่งเพิ่มขึ้นทุกวัน และไม่มีทางที่จะไล่จับได้ง่าย ๆ

อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่า ยังคงมีเทคโนโลยีที่จะสามารถจับกุมกลุ่มคนเหล่านี้ได้ แต่เจ้าหน้าที่ต้องหาวิธีการและลงทุนที่จะทำ เพราะถ้าหากไม่ทำก็จะมีคนที่ตกเป็นเหยื่อในลักษณะนี้ต่อไป ซึ่งในช่วงแรกตนยังไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ กับเรื่องนี้ เพราะตนเองเชื่อว่า ผู้ชมและผู้ฟังน่าจะสามารถแยกแยะได้ว่า คลิปใดเป็นจริง หรือคลิปใดเป็นคลิปปลอม แต่ที่ผ่านมากลับพบว่า คนรู้จักของตนเองที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย เมื่อเห็นว่าตนเป็นคนรายงานข่าวชักนำในการซื้อสินค้า กลับเชื่อคลิปเหล่านี้ จึงทำให้พบว่า ยังคงมีคนบางส่วนที่ไม่สามารถแยกแยะคลิปเหล่านี้ออกได้ จึงทำให้คิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง และอยากฝากให้เจ้าหน้าที่จัดการ ไม่ว่าด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง ก่อนที่จะมีผู้ที่หลงเชื่อมากไปกว่านี้

ใครที่เห็นคลิปตนออกไปในลักษณะเหล่านี้ ขอให้รู้ว่าตนเองไม่มีการรายงานข่าว หรือโฆษณาอะไรลักษณะอย่างนี้แน่นอน ปลอมแน่นอน หลอกลวงแน่นอน

เบาหวานไม่มียารักษาให้หายขาด

ที่ผ่านมา Thai PBS Verify เคยรายงานการตรวจสอบผลิตภัณฑ์แอบอ้างรักษาโรคเบาหวานมาแล้ว ซึ่ง พญ. สุภมาศ ศิริศรีตรีรักษ์ อายุรแพทย์โรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม โรงพยาบาลจุฬาภรณ์  ระบุว่า การรักษาทางการแพทย์ในปัจจุบัน ยังไม่มียาที่สามารถรักษาโรคเบาหวาน โดยการรักษาในปัจจุบันจะเริ่มจากการปรับพฤติกรรมของคนไข้ ที่ถือเป็นมาตรฐานของคนไข้ทุกคน ที่จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเฉพาะอาหารที่มีการแนะนำให้ทานคาร์โบไฮเดรตที่เพียงพอ และไม่เยอะเกินไป รวมถึงลดปริมาณของแป้ง และน้ำตาล ซึ่งมักพบในผลไม้ที่มีดัชนีความหวานสูง ๆ ซึ่งมีการแนะนำให้ทานปริมาณให้ลดลง

พญ. สุภมาศ ศิริศรีตรีรักษ์ อายุรแพทย์โรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม โรงพยาบาลจุฬาภรณ์

อย่างไรก็ตามหากคนไข้หันไปใช้ยาที่โฆษณาที่ไม่มีการรับรอง ก็ถือเป็นสิ่งที่อันตราย เนื่องจากเราไม่สามารถทราบได้ว่า ยาดังกล่าวผลิตมาจากอะไร มีงานวิจัยรับรองหรือไม่ รวมถึงจะมีผลข้างเคียงใดหรือไม่ ดังนั้นแนะนำว่าผู้ป่วยควรพูดคุยกับแพทย์ที่รักษาประจำดีกว่า ก่อนไปพิจารณาใช้ยาอื่น ๆ

สามารถอ่านคำแนะนำจากแพทย์โดยตรงในบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ตรวจสอบพบ: “มิจฉาชีพ” ปลอมช่องยูทูบ “Thai PBS” หลอกขายเม็ดฟู่รักษาเบาหวาน

 

กระบวนการตรวจสอบ

  • ตรวจสอบที่มา (Source Verification)

    • ตรวจสอบ บัญชี TikTok ที่เผยแพร่คลิปโฆษณา พบว่ามีการใช้ภาพผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดังอย่าง กิตติ สิงหาปัด และ หนุ่ม กรรชัย รายงานสรรพคุณยา พร้อมแนบลิงก์ที่นำไปสู่ เว็บไซต์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ต้องสงสัย ซึ่งไม่มีข้อมูลรับรองจาก อย. หรือแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้

  • ตรวจสอบเว็บไซต์และผลิตภัณฑ์

    • ตรวจพบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าววางจำหน่ายในราคาตั้งแต่ 699 – 1,099 บาท โดยขอข้อมูลส่วนตัวจำนวนมากจากผู้ซื้อ

    • ไม่มีการแสดง เลข อย., ส่วนผสม, หรือ งานวิจัยรับรอง ตามมาตรฐานความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สุขภาพ

  • ใช้เครื่องมือ AI ตรวจสอบคลิป

    • ตรวจคลิปผ่านเว็บไซต์ HIVEMODERATION พบว่า มีความเป็นไปได้ 57.9% ที่คลิปถูกสร้างจากเทคโนโลยี Deepfake

    • ตรวจสอบจาก Google Lens และ การค้นหาคำสำคัญ

      • พบการใช้ข่าวเก่า “โจรกรรมไฟฟ้าขุดบิทคอยน์” จากรายการข่าว 3 มิติ เมื่อ 5 มี.ค. 67 มาตัดต่อด้วย AI Deepfake เปลี่ยนเนื้อหา

      • พบรายงานข่าว “หนุ่ม กรรชัย” แจงเหตุไม่ทำข่าว “แตงโม” ยันไม่มีใครบงการ แต่เป็นหนึ่งในพยาน หวั่นละเมิดอำนาจศาล ที่เผยแพร่ผ่าน TikTok  ของช่อง 3PlusNews  เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 68 ถูกนำมาปลอมแปลงด้วย AI Deepfake
  • ยืนยันจากบุคคลในคลิป

    • คุณกิตติ สิงหาปัด ยืนยันว่าไม่เคยทำข่าวหรือโฆษณาในลักษณะดังกล่าว

ผลกระทบของข้อมูลเท็จนี้

  1. สร้างความเข้าใจผิดด้านสุขภาพ

    • โฆษณาชวนเชื่อว่า ยาเพียงชนิดเดียวสามารถทำให้ผู้ป่วยเบาหวานกลับมากินของหวาน ข้าว หรือแม้แต่สุราได้อย่างปลอดภัย

    • ขัดต่อหลักการรักษาทางการแพทย์ ซึ่งระบุชัดว่า โรคเบาหวานยังไม่มียารักษาให้หายขาด และต้องอาศัยการควบคุมอาหารและพฤติกรรมร่วมด้วย

  2. ผู้บริโภคตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

    • มีผู้สูงอายุและคนทั่วไปหลงเชื่อเพราะเห็นว่า “คนดัง” เป็นผู้รายงาน

    • เสี่ยงทั้งเสียเงิน เสี่ยงสุขภาพ และเสี่ยงถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว

  3. บุคคลสาธารณะได้รับความเสียหาย

    • ผู้ที่ถูกนำภาพไปใช้ เช่น กิตติ สิงหาปัด เสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าให้ข้อมูลปลอม หรือมีส่วนร่วมในการหลอกลวง

    • อาจเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงในระยะยาว

ข้อแนะนำเมื่อได้ข้อมูลเท็จนี้ ?

  • อย่าเชื่อทันที เพราะเห็นคนดังอยู่ในคลิป

    • Deepfake ทำให้ภาพและเสียงเหมือนจริงมาก อย่าตัดสินด้วยความคุ้นหน้า-คุ้นเสียงเพียงอย่างเดียว

  • ตรวจสอบแหล่งที่มาของข่าว

    • คลิปข่าวจริงมักมาจาก แหล่งข่าวที่ตรวจสอบได้ เช่น ช่องโทรทัศน์, เว็บไซต์ข่าวที่เชื่อถือได้, หรือบัญชีทางการของผู้ประกาศเอง

  • อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับเว็บไซต์ที่ไม่ชัดเจน

    • หากเว็บไซต์ไม่มีการแสดงเลข อย., ไม่มีที่อยู่บริษัท, ไม่มีข้อมูลผลิตภัณฑ์ชัดเจน ควร หลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด

  • ใช้เครื่องมือตรวจสอบ

    • เช่น Google Lens เพื่อตรวจย้อนกลับว่าภาพหรือคลิปนั้นเคยปรากฏที่ไหนมาก่อน

    • ใช้เว็บไซต์ตรวจสอบภาพ AI เช่น HiveModeration เพื่อช่วยประเมินว่าเนื้อหาถูกสร้างจาก AI หรือไม่

  • แจ้งเตือนคนใกล้ตัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ

    • คนในครอบครัวที่ไม่คุ้นกับเทคโนโลยี อาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย ควร สื่อสารและอธิบายด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย

  • แจ้งเบาะแสต่อหน่วยงาน