Thai PBS Verify พบแหล่งที่มาจาก : Threads

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงโพสต์เธรดอ้างว่า คิม จองอึน ร้องไห้เพราะไทยส่งข้าวช่วยเกาหลีเหนือ
ผู้ใช้บัญชีเธรดรายหนึ่งโพสต์คลิปที่มีภาพของผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน พร้อมข้อความระบุ “คำว่าการให้..! โดยไม่ต้องมีคำอธิบาย..! แม้อาจจะมีคำถามมากมายจากคนรอบข้างว่า..? ให้พวกเขาไปทำไมแม้คนเหล่านั้นอาจจะถูกมองไม่ดีในสายตาของคนมากมายแต่..? คำตอบของคนที่ให้ (คนไทย) อยากจะบอกคือคำว่าน้ำใจคำว่ามนุษยธรรม/เพื่อนร่วมโลกและอีกหลาย ๆ คำหลายเหตุผลในการให้ของคนไทย..! อีกหนึ่งเรื่องราวดี ๆ ไทย/เกาหลีเหนือ“
จากการตรวจสอบของ Thai PBS Verify พบว่า คลิปดังกล่าวถูกโพสต์โดยช่องยูทูบที่ช่องหนึ่งซึ่งคลิปดังกล่าวมียอดผู้เข้าชมไปกว่า 230,000 ครั้ง โดยคลิปดังกล่าวระบุข้อความ “ช็อกทั่วโลก! คิมจองอึนร่ำไห้ – ยอมรับว่า “ข้าวไทย” ได้ช่วยชีวิตทั้งประเทศเกาหลีเหนือ” ถูกโพสต์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา เนื้อหาภายในคลิปอ้างว่า “เกาหลีเหนือเพิ่งผ่านช่วงการขาดแคลนอาหาร จนทำให้ปริมาณอาหารของประชาชนเหลือ 10 วัน และหลายประเทศปฏิเสธการช่วยเหลือ จนคณะผู้แทนพิเศษของเกาหลีเหนือ ต้องบินมาขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย จนทำให้ทางการไทยมอบข้าวให้จำนวน 20,000 ตัน ซึ่งทำให้ คิมจองอึน ร้องไห้จากความช่วยเหลือในครั้งนี้” โดยคลิปดังกล่าวมีความยาวถึง 30 นาที

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงคลิปจากช่องยูทูบ เนื้อหาอ้างว่า คิม จองอึน ร้องไห้ขอบคุณไทยที่ส่งข้าวช่วยเหลือ
ตัวอย่างคลิปปลอมที่ตรวจสอบพบ
ภาพถูกสร้างจาก AI
เรานำคลิปดังกล่าวไปด้วยเครื่องมือตรวจสอบ AI จาก Hivemoderation ผลการตรวจสอบปรากฏว่า คลิปดังกล่าวมีความเป็นได้ที่จะถูกสร้างจาก AI ถึง 99.07%

ผลการตรวจสอบพบว่า ภาพดังกล่าวมีความเป็นไปได้ถึง 99.7% ที่จะถูกสร้างจาก AI
ไม่พบรายงานจากสื่อเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบไปยังเว็บไซต์ KCNA ซึ่งเป็นสำนักข่าวของเกาหลีเหนือ ที่นำเสนอข่าวเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา ไม่พบว่า มีการรายงานข่าวที่เกี่ยวข้องกับการส่งข้าวของไทยให้กับเกาหลีเหนือแต่อย่างใด มีเพียงรายงานข่าวเรื่องการเก็บเกี่ยวข้าวของเกาหลีเหนือในวันเดียวกันจำนวน 2 ข่าว ได้แก่ นาข้าวหลายไร่เก็บเกี่ยวเสร็จเรียบร้อยแล้ว และ ทุ่งนาเต็มไปด้วยข้าวที่เก็บเกี่ยว

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงการรายงานข่าวเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวข้าวของเกาหลีเหนือโดยเว็บไซต์ KCNA
ไทยเคยขายข้าวให้ “เกาหลีเหนือ” จริง
อย่างไรก็ตามจากการค้นหาด้วยคำสำคัญ ผ่าน Google Search Engine พบรายงานข่าวจาก สำนักข่าวอิศรา (Isranews) ที่กล่าวถึงเรื่องนี้ ในข่าว “เกาหลีเหนือค้างค่าข้าว! ยอดพุ่ง 1.7 หมื่นล.ยังไม่คืนเงินกองทุนช่วยเกษตร-ฟ้อง 39 คดี ” ในเนื้อข่าวระบุว่า รัฐบาลไทยเริ่มขายข้าวให้เกาหลีเหนือตั้งแต่ปี 2536 ในสมัยรัฐบาล นายชวน หลีกภัย โดยขายผ่านองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) และมีมติ ครม. รับทราบในปี 2537 แต่ไม่ระบุปริมาณและวงเงินชัดเจน ต่อมาในปี 2538 ครม. เห็นชอบขายข้าวเพิ่มอีก 300,000 ตัน โดยให้สินเชื่อ 1–2 ปี และมีเงื่อนไขให้เกาหลีเหนือชำระหนี้เดิม 23.2 ล้านดอลลาร์ก่อนครบกำหนดในปี 2538
ปี 2542 รัฐบาลไทยมีมติให้เร่งติดตามหนี้จากเกาหลีเหนือ ส่วนในปี 2545 รัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร มีความร่วมมือทางการค้าโดยใช้ระบบ “การค้าหักบัญชี” พร้อมลงนามขายข้าวล็อตใหม่อีก 300,000 ตัน เป็นมูลค่ารวม 50.9 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นเงินเชื่อ 2 ปี มีเบี้ยปรับ 2.5% หากชำระล่าช้า
เมื่อรวมทั้งหมด รัฐบาลไทยขายข้าวให้เกาหลีเหนือรวมมูลค่าประมาณ 74.1 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.4 พันล้านบาท) แต่ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า เกาหลีเหนือได้ชำระหนี้แล้วหรือไม่ และหลังปี 2545 ก็ไม่มีมติ ครม. ใหม่เกี่ยวกับการค้าข้าวกับเกาหลีเหนืออีก (อ้างอิงจากรายงานข่าว เกาหลีเหนือค้างค่าข้าว! ยอดพุ่ง 1.7 หมื่นล.ยังไม่คืนเงินกองทุนช่วยเกษตร-ฟ้อง 39 คดี ของสำนักข่าวอิศรา ที่รายงานเมื่อ 5 พ.ย. 61 )

สำนักข่าวอิศรา รายงานข่าวเกาหลีเหนือค้างค่าข้าว! ยอดพุ่ง 1.7 หมื่นล.ยังไม่คืนเงินกองทุนช่วยเกษตร-ฟ้อง 39 คดี
นักวิชาการชี้ไทยคงไม่ยอมถูกโกงซ้ำ
ด้าน ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว ซึ่งครั้งนั้นไทยเราส่งข้าวไปให้กับเกาหลีเหนือ เพื่อมนุษยธรรม เนื่องจากเกาหลีเหนือได้มีการร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งไทยได้ให้การช่วยเหลือในรูปแบบของการขายข้าวให้ โดยเกาหลีเหนือได้รับปากว่าจะจ่ายเงินตอบแทน แต่ก็ไม่ได้มีการจ่ายเงินให้ครบแต่อย่างใด อีกทั้งในช่วงหลังเชื่อว่า เกาหลีเหนือได้รับข้าวจากกัมพูชา ในรูปแบบของการให้เปล่า รวมถึงในรูปแบบของความสัมพันธ์ของผู้นำที่ลึกซึ้ง
นอกจากนี้ยังได้รับข้าวจากเมียนมา รวมถึงเวียดนามอีกด้วย ซึ่งเกาหลีเหนือถือว่า ได้รับการส่งข้าวเข้ามาช่วยเหลือจากประเทศในกลุ่มอาเซียนไว้จำนวนมาก

ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
ขณะที่ ดร.ไพบูลย์ ปีตะเสน ประธานศูนย์เกาหลีศึกษา ที่ปรึกษาสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความคิดเห็นว่า การส่งข้าวไปขายให้กับเกาหลีเหนือของรัฐบาลไทยเกิดขึ้นหลายครั้ง โดยเกิดขึ้นตั้งแต่รัฐบาลของ นายชวน หลีกภัย มาจนถึงรัฐบาลของ นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถือเป็นการขายตามปกติไม่ใช่การมอบให้แต่อย่างใด ซึ่งในส่วนของการบริจาคนั้นแม้จะมีอยู่บ้าง แต่ปัญหาหลักคือการที่เกาหลีเหนือไม่จ่ายเงินในส่วนที่มีการซื้อขาย ส่วนรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีการร้องขอจากทูตของเกาหลีเหนือ ที่เข้ามาขอความช่วยเหลือให้ส่งข้าวเข้าไปในเกาหลีเหนือด้วยเช่นเดียวกัน โดยในช่วงนั้นเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ครั้งนั้นก็ไม่ได้มีการส่งข้าวไปให้ เนื่องจากทางเกาหลีเหนือต้องการที่จะขอติดค่าข้าวในอดีต และจะขอซื้อข้าวล็อตใหม่ ซึ่งในครั้งนั้นก็ไม่ได้มีการขายให้ เนื่องจากการขายข้าวจำเป็นที่จะต้องได้รับเงินตอบแทน เพื่อมาหมุนให้กับเกษตรกร จึงทำให้การมอบข้าวให้กับเกาหลีเหนือในมิติของรัฐทำได้ลำบาก

ดร.ไพบูลย์ ปีตะเสน ประธานศูนย์เกาหลีศึกษา ที่ปรึกษาสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังมีประเด็นการถูกแบนจาก UNHCR ที่ถูกจำกัดนักการทูตให้เหลือเพียง 1 คน ในประเทศไทย หรือการไม่ให้มีผู้ประกอบการ ซึ่งปัญหาคือการถูกจำกัด อีกทั้งสหรัฐฯ เองก็คงไม่ต้องการให้ไทยบริจาคข้าวให้กับเกาหลีเหนือ เพื่อบีบทางเกาหลีเหนือให้เปิดการพูดคุยกับสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตามปัจจุบันพบว่า เกาหลีเหนือน่าจะได้รับการช่วยเหลือจากเวียดนาม รวมถึงลาว ซึ่งเห็นได้จากการที่ทั้งสองประเทศ เดินทางไปฉลอง 80 ปี ของการก่อตั้งพรรคแรงงานแห่งเกาหลี ซึ่งประเทศทั้งสองล้วนเป็นคอมมิวนิสต์อีกทั้งผู้นำของประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ก็มีความใกล้ชิดกันอยู่แล้ว
สำหรับการอ้างว่าเกาหลีเหนือมาขอบคุณที่ไทยมอบข้าวให้นั้น ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด และไม่เห็นเหตุผลของการที่คิม จองอึน จะต้องมาขอบคุณไทย และตนคิดว่าคงไม่มีการเข้ามาขอให้ไทยส่งข้าวเพิ่ม แต่ถ้าหากมีการขอ ก็จะเป็นการพูดคุยในลักษณะของทวิภาคีมากกว่า คงไม่มีการเปิดเป็นสาธารณะ จึงคิดว่าเรื่องดังกล่าวมีโอกาสเป็นไปได้น้อย และเรื่องเหล่านี้เป็นเพียงแค่เรื่องที่สร้างจาก AI เพราะ คิม จองอึน ก็มีช่องทางอื่น ๆ ที่จะขอความช่วยเหลือ
อีกทั้งสถานการณ์ในปัจจุบันที่เกิดสงครามในพื้นที่ต่าง ๆ ก็ถือเป็นโอกาสให้เกาหลีเหนือได้เร่งขายอาวุธของตัวเอง จึงเชื่อว่าเกาหลีเหนือไม่ได้อยู่ในภาวะที่จะต้องการการช่วยเหลือ ถึงแม้ว่ากำลังใกล้จะเข้าสู่ฤดูหนาว แต่ก็คงไม่อยู่ในภาวะที่ขาดแคลนอาหารเสียทีเดียว อีกทั้งหากเกิดการเข้ามาขอความช่วยเหลือในช่วงนี้จริง ด้วยสภาพของรัฐบาลที่ได้ประกาศว่าจะอยู่เพียง 4 เดือน จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากด้วยเช่นเดียวกัน ที่รัฐบาลจะกล้าบุกบ่ามให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้ เพราะยิ่งปัจจุบันสหรัฐอเมริกา กำลังขยายแผ่อิทธิพล หากไทยเข้าให้ความช่วยเหลือ ก็อาจจะทำให้ทั้งสหรัฐฯ และคนในประเทศเกิดอารมณ์ด้านลบกับเรื่องเหล่านี้อีกด้วย