Thai PBS Verify พบแหล่งที่มาจาก : Facebook

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงโพสต์อ้าง “ลาว ไทย เวียดนาม” ยึด 62 จังหวัดของกัมพูชา
เพจเฟซบุ๊กของกัมพูชาที่ชื่อ មេផ្ទះ Housewife โพสต์ข้อความระบุว่า
ខេត្តក្រុងខ្មែរដែលបាត់ពីជំនាន់មុនសរុប ៖
ឡាវ: ៦ខេត្ត
សៀម: ៣៦ខេត្ត ក្រុង១
វៀតណាម: ២០ខេត្ត ក្រុង១ កោះ២ កំពង់ផែ២ ប្រាសាទ១ កូនខ្មែរគួរចងចាំ
ทั้งนี้เมื่อนำมาแปลเป็นภาษาไทยพบโพสต์ดังกล่าวอ้างว่า
รวมจังหวัดและเมืองเขมรที่หายไปจากรุ่นก่อน:
1.ลาว: 6 จังหวัด
2.สยาม: 36 จังหวัด 1 เมือง
3.เวียดนาม: 20 จังหวัด, 1 เมือง, 2 เกาะ, 2 ท่าเรือ, 1 วัด เด็กเขมรควรจำไว้
โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าไปแสดงความรู้สึกแล้วถึง 9,100 ครั้ง รวมถึงแชร์ออกไปกว่า 3,800 ครั้งด้วยกัน
ประวัติศาสตร์ที่ไม่ตรงกับความจริง
Thai PBS Verify ตรวจสอบโพสต์ดังกล่าวกับ ดร.ยิ่งยศ บุญจันทร์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งเปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า จากโพสต์ดังกล่าวคิดว่า เป็นการอ้างถึงความยิ่งใหญ่ในสมัยพระนคร ที่ตรงกับยุคพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่มีการบันทึกว่า เมืองไหนเคยอยู่ใต้อำนาจของเมืองพระนครบ้าง ซึ่งพบว่ามีการกินพื้นที่เข้ามาถึงในประเทศไทย เช่น เมืองเพชรบุรี และเมืองกาญจนบุรี ถือว่าเป็นหัวเมืองใหญ่ ๆ ที่อยู่ในขอบเขตอำนาจของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เลยคิดว่าโพสต์ดังกล่าวใช้การตีความแบบนี้ เพราะว่าหลังจากสมัยพระเจ้าเยอรมันที่ 7 หรือประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 11-12 อำนาจของกัมพูชาก็เสื่อมลง จนดินแดนต่าง ๆ มีการแยกตัวเป็นอิสระ มีการตั้งกลุ่มการเมืองใหม่ เช่น กลุ่มชาติพันธุ์ไทย หรือกลุ่มคนที่เคยอยู่ภายใต้หน้าการปกครองเขมร ก็ตั้งตัวเป็นอิสระ จึงเป็นที่มาของการที่บอกว่าไทยเอาพื้นที่ไปกี่จังหวัด

ดร.ยิ่งยศ บุญจันทร์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
อย่างกรณีของเวียดนาม เช่น เมืองไซ่ง่อน หรือ นครโฮจิมินห์ ในปัจจุบัน ก็เคยอยู่ในเขตอำนาจการปกครองของกัมพูชามาก่อน แต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 18 ขณะนั้นกษัตริย์กัมพูชาอ่อนแอ จึงถูกเวียดนามเข้ามาปกครอง และได้พื้นที่ตรงนี้ไป ซึ่งไซ่ง่อนในอดีตคือศูนย์กลางการปกครองของฝรั่งเศสในสมัยยึดอินโดจีนเป็นอาณานิคม
ขณะที่กรณีของลาวนั้น ลาวในหลาย ๆ พื้นที่ก็เคยอยู่ในเขตอำนาจที่เคยมีวัฒนธรรมเขมร โดยสามารถพบร่องรอยได้ขึ้นไปถึงจำปาสัก จึงคิดว่าโพสต์ดังกล่าวน่าจะตีความผ่านประวัติศาสตร์ในอดีต ว่าดินแดนเขาเคยขยายใหญ่ขนาดไหน แล้วปัจจุบันมันหายไป ซึ่งทำให้มีคำว่าจังหวัด แต่ในอดีตไม่มีคำว่าจังหวัด และในอดีตก็ไม่มีคำว่าพื้นที่ของใครอย่างชัดเจน แต่พื้นที่ต่าง ๆ จะถูกยึดครองตามรัชสมัยของกษัตริย์พระองค์ใดพระองค์นึงตามความเข้มแข็งของตัวกษัตริย์
อย่างไรก็ตามในอดีตไม่ได้มีการเรียกว่า กัมพูชา แต่ใช้คำเรียกว่าเมืองเขมรโบราณ และจะไม่ใช้คำว่าขอม ซึ่งคำว่าเขมรโบราณก็คืออาณาจักรของกัมพูชา แต่เป็นอาณาจักรคือตั้งแต่ประมาณก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 15 ขึ้นไป ซึ่ง ณ ช่วงเวลานั้น ไทยเรายังไม่มี แต่ไม่ได้หมายถึงว่า คนไทยไม่มีอยู่แถวนี้มาก่อน แต่อาจจะไม่ได้มีบทบาท หรือมีอำนาจทางการเมือง เมื่อเทียบกับกลุ่มชาติพันธุ์ มอญ-เขมร ที่มีอาณาจักรอย่างชัดเจน อย่างอาณาจักรพุกามในพม่า เป็นต้น
ดังนั้นหากจะตีความว่า กัมพูชาเสียพื้นที่เหล่านั้นไปก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะเป็นความเข้าใจของชาวเขมรต่อพื้นที่ในอดีตของกัมพูชา ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นการสูญเสียดินแดน ในเมื่อในอดีตไม่เคยมีดินแดนของใคร อีกทั้งคำว่า กัมพูชา เพิ่งปรากฏเป็นเพียงชื่อของแคว้นนึง ในช่วงประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 19-20 หรือในตอนที่กัมพูชาเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส และพื้นที่ของกัมพูชาก็เหลืออยู่แค่เท่าที่ปัจจุบันตามที่ฝรั่งเศสเขากำหนดให้
ส่วนตัวผมมองว่ามันไม่ใช่การสูญเสียดินแดนของกัมพูชาในอดีต แต่คือการเอาประวัติศาสตร์มาอธิบายว่า ตัวเองเคยมีพื้นที่การปกครองเท่าไหร่ ซึ่งมันไม่ตรงกับขอบเขตจริง ๆ ของกัมพูชา
ไม่มีหลักฐาน 36 จังหวัดไทยเคยถูกปกครองโดยกัมพูชา
ขณะที่ ผศ. ดร.ธิบดี บัวคำศรี อาจารย์ภาคประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความคิดเห็นถึงโพสต์ดังกล่าว โดยระบุว่า เรื่องของการถูกยึดพื้นที่ เท่าที่ทราบในส่วนของเวียดนาม ในการยึดพื้นที่จากกัมพูชาไปจริงราว 20 จังหวัด ส่วนของลาวนั้นยังไม่เคยพบหลักฐานการยึดพื้นที่ของกัมพูชาตามที่กล่าวอ้าง ขณะที่การกล่าวอ้างว่า ไทยยึดพื้นที่ของกัมพูชาไป 36 จังหวัดนั้น เข้าใจว่าเป็นการย้อนประวัติศาสตร์กลับไปถึงสมัยที่กำลังรุ่งเรืองเต็มที่ ที่มีการขยายอำนาจ ขยายขอบเขต ขยายอิทธิพลในทางวัฒนธรรมออกไป แต่ว่ากรณีของไทยนั้นต่างจากเวียดนาม โดยเฉพาะในแง่ที่ว่า คนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดที่กัมพูชาเคลม เพราะถ้าหากดูตัวเลข 36 จังหวัด จะพบว่า มีอาณาเขตเลยไปจากจังหวัดตามแนวชายแดนเยอะ ซึ่งคนที่อยู่นอกเขตจังหวัดตามแนวชายแดน ก็ไม่ได้มีแค่คนที่พูดภาษาเขมร แต่หากไปนอกพื้นที่ชายแดน จะไม่มีแค่ชาวเขมรเคยตั้งชุมชนหรืออาศัยอยู่ ซึ่งต่างจากที่เวียดนามเป็น

ผศ. ดร.ธิบดี บัวคำศรี อาจารย์ภาคประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้เชื่อว่าเป็นการเคลมบนพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ที่ต่างกัน โดยการเคลมจังหวัดในประเทศไทยนั้น อาศัยอำนาจในทางการเมืองและวัฒนธรรม ว่าเขาเคยมีอำนาจทางการเมืองและวัฒนธรรมเหนือพื้นที่ในประเทศไทย ซึ่งเขาคิดออกมา 36 จังหวัด ส่วนในกรณีของเวียดนาม เคยมีชุมชน มีคนเขมรอยู่ที่ตรงนั้น รวมถึงเคยมีอิทธิพลในทางการเมืองและวัฒนธรรมของเขมรอยู่ด้วย แต่สำหรับของไทยนั้นจะไม่มีเรื่องคนเขมรมาอาศัยอยู่
สำหรับประเทศลาว ตนไม่เห็นว่าจังหวัดอะไรบ้างที่เขาเคลม แต่พบว่าเคยมีบทความตั้งแต่เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว รวมถึงหลังจากนั้น ที่พูดถึงอิทธิพลทางการเมืองของกัมพูชาในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 หรือในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 ที่อิทธิพลของเขมรขึ้นไปถึงเวียงจันทน์ รวมถึงพบหลักฐานจากนักวิชาการฝรั่งเศสเขียนบันทึกเอาไว้ ซึ่งก็พบจริง แต่ว่าพบแล้วสามารถบอกได้ไหมว่า อำนาจในทางการเมืองของของเขมรเหนือพื้นที่นั้นเข้มแข็ง หรือจริง ๆ แล้วเป็นแค่คนทางนั้นรับเอาวัฒนธรรมแบบเขมรเข้าไป ซึ่งก็ยังถกเถียงกันอยู่ แต่หากจะเคลมว่า เจอวัฒนธรรมเขมรหรือไม่ในลาว ก็ต้องบอกว่าเจอปราสาท เจอรูปเคารพ
แต่หากจะบอกว่า 36 จังหวัดของไทยเป็นของกัมพูชามาก่อนหรือไม่ ตนคิดว่า มันไม่มีหลักฐาน ไม่มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่หนักแน่น ที่บอกว่า 36 จังหวัดนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งในทางการเมือง หรือถูกปกครองโดยกัมพูชา