ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

9/11 บทเรียนหลังวินาศกรรม 11 กันยายน 2001


วันสำคัญ

พีรชัย พสุทันท์

แชร์

9/11 บทเรียนหลังวินาศกรรม 11 กันยายน 2001

https://www.thaipbs.or.th/now/content/3112

9/11 บทเรียนหลังวินาศกรรม 11 กันยายน 2001


11 กันยายน ค.ศ. 2001 เหตุโจมตีสหรัฐฯ ‘9/11’ กลายเป็นการก่อการร้ายที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล

เราคงจะพอทราบเรื่องราวของ 9/11 กันมาบ้างว่า วันนั้น กลุ่มอัลกออิดะห์ (หรือ อัลไคดา - Al-Qaeda) – ซึ่งนำโดยอุซามะห์ บิน ลาเดน (Osama Bin Laden) ในขณะนั้น –  ปลอมตัวเป็นผู้โดยสารใน 4 เที่ยวบิน และจี้เครื่องบินเพื่อพุ่งชนสถานที่สำคัญในสหรัฐฯ เครื่องบินของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส (American Airlines) เที่ยวบินที่ 11 และ 77 พุ่งชนตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เหนือ (World Trade Center North) และอาคารเพนตากอน (Pentagon) ตามลำดับ ขณะที่ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ใต้ (World Trade Center North) นั้นถูกเที่ยวบินที่ 175 ของสายการบินยูไนเต็ด (United Airlines) พุ่งชน 

วินาทีที่เครื่องบินลำที่ 2 พุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (ภาพจาก: Seth Mcallister/AFP)
อาคารเพนตากอนหลังเครื่องบินเที่ยวบินที่ 77 พุ่งชนในเหตุ 9/11 (ภาพจาก: FBI/Handout/Getty Images via AFP)

คาดการณ์ว่า อาคารรัฐสภาสหรัฐ (US Capitol) เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งในเหตุโจมตี 9/11 ด้วย อย่างไรก็ดี ผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบินที่ 93 ของสายการบินยูไนเต็ดได้ต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้าย จนทำให้เครื่องบินตกที่รัฐเพนซิลเวเนีย (Pennsylvania) เสียก่อน ท้ายที่สุดแล้ว มีเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตี 9/11 ทั้งสิ้น 2,977 คน 

หลังจาก 9/11 ไม่นาน ทั่วโลกต่างยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยท่าอากาศยานและการบินพลเรือน ส่วนสหรัฐฯ เองได้จัดตั้งกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Department of Homeland Security) ขึ้น และที่หลายคนอาจจำได้ สหรัฐฯ ได้ทำ ‘สงครามต่อต้านการก่อการร้าย (War on Terror)’ ในอัฟกานิสถานและตะวันออกกลางเพื่อกำจัดอัลกออิดะห์กับองค์กรก่อการร้ายต่าง ๆ เป็นเวลาร่วม 2 ทศวรรษ

เวลาที่พูดถึง 9/11 เรามักจะนึกถึงภาพเครื่องบินพุ่งชนเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ หรือปฏิบัติการไล่ล่าบิน ลาเดนของสหรัฐฯ แต่ในบทความนี้ Thai PBS อยากชวนทุกคนมองเหตุการณ์ ‘หลัง 9/11’ ผ่านแง่มุมเชิงจิตวิทยา พร้อมถอดบทเรียนต่าง ๆ ที่ช่วยให้คนอเมริกันรับมือกับ ‘บาดแผลในใจ’ จากเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนี้

ควันไฟยังคงคุกกรุ่น 4 วันหลังเครื่องบินพุ่งชนที่ตึกเวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์จากเหตุ 9/11 (ภาพจาก: Keith Meyers/The New York Times/AFP)

การดูแลผู้คนจากความบอบช้ำครั้งใหญ่หลัง 9/11

ก่อนที่เหตุการณ์ 9/11 จะเกิดขึ้น ชาวอเมริกันทั่ว ๆ ไปยังคงเห็นภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง หรือ PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder) เป็นเรื่องไกลตัว คงจะมีแต่ทหารผ่านศึกเท่านั้นที่ประสบปัญหาความเครียดรุนแรง แม้แต่ในวงวิชาการเองก็ไม่ได้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก แต่ 9/11 ถือเป็นเหตุการณ์แห่ง ‘ความบอบช้ำทางใจร่วมกันของสังคม (collective trauma)’ ครั้งแรก ๆ ของสหรัฐฯ และผลักดันให้วงวิชาการศึกษาปัญหาสุขภาพจิตและภาวะ PTSD อย่างกว้างขวางมากขึ้น

ขณะที่ชาวนิวยอร์กจำนวนไม่น้อยจะฟื้นฟูใจหลัง 9/11 ได้เร็วกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญประเมินไว้ แต่ก็ยังมีคนราวร้อยละ 10 ที่ยังคงมีอาการซึมเศร้าและภาวะ PTSD นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยร้อยละ 19.5 กับพนักงานดับเพลิงเกษียณร้อยละ 22 ต้องแบกรับความเครียดจากภาวะ PTSD ในช่วง 5-6 ปีแรกหลังการโจมตี 9/11 อีกทั้งความชุก (prevalence) ของภาวะ PTSD ในกลุ่มเด็กที่อาศัยในย่านเดียวกันกับตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์นั้น ก็สูงถึงร้อยละ 35 ภายในช่วง 2 ปีครึ่งหลัง 9/11

กราวด์ซีโร่ หรือจุดที่เครื่องบินพุ่งชนตึกแฝดในนิวยอร์ก (ภาพจาก: Handout/NOAA/AFP)

แม้จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ 9/11 หรือ ‘กราวด์ซีโร่ (Ground Zero)’ คนจำนวนไม่น้อยก็ได้เห็นวินาทีที่ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ระเบิดและถล่มลงมาผ่าน ‘รายงานสด 9/11 บนหน้าจอโทรทัศน์’ ดร.ร็อกแซน โคเอน ซิลเวอร์ (Roxane Cohen Silver) อาจารย์ด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เออร์ไวน์ (University of California Irvine) กล่าวกับสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (APA) ไว้เมื่อปี 2021 ว่า คนที่เห็นภาพตึกแฝดถูกโจมตีแบบเรียลไทม์นั้นมีแนวโน้มจะแสดงอาการเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ “มากกว่า” คนที่ทราบข่าวภายหลัง ความหวาดกลัวและความรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงแพร่กระจายไปทั่วทุกหนแห่งอย่างรวดเร็ว

ผู้ที่ประสบเหตุ 9/11 จำนวนหนึ่งบอบช้ำทางใจเพิ่มจากเหตุร้ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม เช่น พายุเฮอร์ริเคนแซนดี (Hurricane Sandy) ในปี 2012 หรือการระบาดของโควิด-19 (COVID-19) ระหว่างปี 2020-2021 ความเครียดและวิตกกังวลจากเหตุร้ายต่าง ๆ ยังทำให้แนวโน้มการใช้สารเสพติดเพิ่มขึ้นในกลุ่มเสี่ยง นอกจากนี้ ซากปรักหักพังและฝุ่นควันจากเหตุตึกแฝดถล่มก็ทำให้เจ้าหน้าที่ป้องกันสาธารณภัยและประชาชนส่วนหนึ่ง เป็นโรคหอบหืด มีความผิดปกติทางระบบหายใจ หรือถึงขั้นเป็นมะเร็งได้

ชายคนหนึ่งกำลังตะโกนเรียกเผื่อมีผู้ต้องการความช่วยเหลือ ท่ามกลางซากปรักหักพังของเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (ภาพจาก: Doug Kanter/AFP)

เมื่อ 9/11 ได้ก่อให้เกิดปัญหาทั้งสุขภาพใจกายต่อผู้รอดชีวิตหรือพยานผู้เห็นเหตุการณ์ - โดยเฉพาะในนิวยอร์กซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุใหญ่ที่สุด หน่วยงานสาธารณสุขนครนิวยอร์กจึงจัดตั้งสำนักทะเบียนสุขภาพเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (World Trade Center Health Registry) ขึ้น เพื่อรวบรวมระเบียนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุ 9/11 ทั้งทางตรงและอ้อม ช่วยเหลือการรักษา และติดตามสุขภาพของคนเหล่านี้อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยมีคนราว 400,000 คนซึ่งเข้าเกณฑ์ที่จะได้รับการช่วยเหลือจากสำนักทะเบียนฯ นี้  

หายนะจากเหตุ 9/11 ในนครนิวยอร์กได้สร้างผลกระทบระยะยาวทั้งต่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยและพลเรือน... โครงการช่วยเหลือเปิดรอ [ผู้ประสบภัย] อยู่ และผู้ที่ยังไม่ได้รับการดูแลจากโครงการสุขภาพเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในขณะนี้ ก็ยังสามารถสมัครได้ – มาร์ก ฟาร์เฟล (Mark Farfel) ผู้อำนวยการ WTC Health Registry กล่าวกับ NPR ในช่วงครบรอบ 20 ปีเหตุ 9/11

พื้นที่สาธารณะเพื่อรำลึกและฟื้นฟูจิตใจจากวินาศกรรม 9/11

เหตุโจมตี 9/11 สร้างทั้งความสูญเสียต่อชีวิตนับพันและความโศกเศร้าแก่ผู้คนนับล้าน จริงอยู่ที่ว่า การรักษาทางแพทย์นั้นขาดไม่ได้หลังเกิดเหตุเภทภัยครั้งใหญ่ แต่สังคมจะเข้มแข็งและเดินหน้าต่อไปได้ก็ต้องอาศัย ‘พื้นที่’ ที่ให้ทุกคนได้เยียวยาความบอบช้ำ ปลดปล่อยความเสียใจ และคบคิดร่วมกัน การบูรณะและการออกแบบเมืองจึงมีบทบาทสำคัญหลัง 9/11 ที่นครนิวยอร์ก และรัฐเพนซิลเวเนีย อันเป็นสถานที่เกิดเหตุหลัก 

อนุสรณ์สถานแห่งแรกคือ อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ 9/11 (9/11 Memorial & Museum) ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่เดิมของตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนครนิวยอร์ก โดยสร้างขึ้นจากแนวคิด ‘สะท้อนความขาดหาย (Reflecting Absence)’ ที่ไมเคิล อาราด และปีเตอร์ วอร์กเกอร์ (Michael Arad & Peter Walker) สถาปนิก ได้ออกแบบร่วมกันและชนะการประกวดจากการออกแบบทั้งหมด 5,201 แบบ อนุสรณ์สถานแห่งนี้เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2011 หรือวันครบรอบ 10 ปีเหตุโจมตี 9/11

สระน้ำฝั่งใต้ของ 9/11 Memorial & Museum (ภาพจาก: Spencer Platt /Getty Images via AFP)
ภาพมุมสูงเหนืออนุสรณ์สถานในนิวยอร์ก (ภาพจาก: Satellite image ©2021 Maxar Technologies/AFP)

อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ 9/11 แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ส่วนแรกคือ สระน้ำรำลึกแฝด (Memorial Pools) แต่ละสระเป็นน้ำตกขนาด 30 ฟุต (9.14 ม.) 2 ที่ไหลลงไปยังบ่อตรงกลางลึกลงไปอีก 20 ฟุต (6.1 ม.) และมวลน้ำจะตกลงไปยังช่องว่างเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็น ไม่ว่าน้ำจะเติมลงไปเท่าไหร่ ช่องว่างนั้นก็จะไม่มีวันเต็ม สระน้ำทั้ง 2 ล้อมด้วยรั้วที่สลักชื่อ ‘เหยื่อทุกคน’ บนแผ่นป้ายทองแดง โดยสระน้ำฝั่งเหนือมีชื่อของผู้เสียชีวิตที่ตึกด้านเหนือ ผู้โดยสารและลูกเรือจากเที่ยวบินที่ 11 รวมถึงเหยื่อเหตุการณ์คาร์บอมบ์เมื่อปี 1993 ส่วนสระน้ำฝั่งใต้นั้นสลักชื่อของผู้โดยสารและลูกเรือของเที่ยวบินที่ 175, 77 และ 93 กับผู้เสียชีวิตที่อาคารเพนตากอน

ส่วนถัดมาของอนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ 9/11 เรียกว่า ต้นไม้แห่งผู้รอดชีวิต (Survivor Tree) ซึ่งเป็นต้นสาลี่นก (Callery pear) ที่ยืนต้นอยู่หลังจากตึกแฝดถล่มลงมา จนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความเข้มแข็งและความบากบั่น และพื้นที่โดยรอบก็ปลูกต้นโอ๊กขาวชายเลน (swamp white oak) ทั้งหมด 400 ต้น และส่วนสุดท้ายคือ ลานรำลึก 9/11 (9/11 Memorial Glade) ซึ่งตั้งหินขนาดใหญ่ 6 ก้อนโดยฝังชิ้นส่วนเหล็กจากตึกแฝดดั้งเดิม ส่วนนี้อุทิศให้แก่เจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัยที่บาดเจ็บ ป่วย หรือเสียชีวิตจากมลพิษหลังตึกถล่ม

รายชื่อของผู้เสียชีวิตส่วนหนึ่งที่สระน้ำฝั่งใต้  (ภาพจาก: Spencer Platt /Getty Images via AFP)
ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังสวมกอดกันและแสดงความเศร้าในโอกาสครบรอบ 20 ปี 9/11 (ภาพจาก: Pool/Getty Images via AFP)

อนุสรณ์สถานอีกแห่งคือ อนุสรณ์สถานแห่งชาติเที่ยวบินที่ 93 (Flight 93 National Memorial) ซึ่งตั้งอยู่ ณ จุดที่เครื่องบินเที่ยวดังกล่าวตกในเมืองสตอยสทาวน์ รัฐเพนซิลเวเนีย อนุสรณ์สถานแห่งนี้ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ คือ ลานรำลึก (Memorial Plaza) ที่เป็นทางเดินยาว 400 ม. ทอดไปสู่จุดเกิดเหตุและกำแพงแห่งนาม (Wall of Names) ซึ่งสลักชื่อผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 40 คนที่หยุดยั้งการโจมตีไว้ได้ อีกส่วนหนึ่งคือ หอคอยแห่งสรรพเสียง (Tower of Voices) ความสูง 93 ฟุต (28.34 ม.) โดยติดตั้งกระดิ่งลมไว้ 40 ชิ้น เปรียบดั่งเสียงของผู้สูญเสียทุกคนที่ยังคงดังอยู่ในใจของญาติมิตรและคนอเมริกัน

ภาพเปรียบเทียบของจุดที่เครื่องบินเที่ยวบินที่ 93 ตกในรัฐเพนซิลเวเนีย (ภาพจาก: Jeff Swensen/Getty Images via AFP และ David Maxwell/US Navy Photo/AFP)ผู้เยี่ยมชมคนหนึ่งกำลังดูภาพของผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบินที่ 93 ในเหตุ 9/11 (ภาพจาก: Jeff Swensen/Getty Images via AFP)กำแพงแห่งนามที่อนุสรณ์สถาน 9/11 ในรัฐเพนซิลเวเนีย (ภาพจาก: Jeff Swensen/Getty Images via AFP)หอคอยแห่งสรรพเสียงประจำ Flight 93 National Memorial (ภาพจาก: Jeff Swensen/Getty Images via AFP)

ในเวลาเพียงสั้น ๆ โศกนาฏกรรม 9/11 ได้เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล พร้อมทิ้งบาดแผลในใจของผู้คนนับล้าน จริงอยู่ที่ว่า รัฐสามารถมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวผู้เสียจากวินาศกรรมครั้งใดครั้งหนึ่งได้ แต่ ‘การเยียวยาที่แท้จริง’ จะเกิดขึ้นได้ด้วย ‘มาตรการระยะยาว’ เพื่อดูแลคนที่ยังมีชีวิตอยู่และรำลึกผู้ที่จากไปอย่างที่เราได้เห็นสหรัฐฯ ดำเนินการหลัง 9/11 นั่นเองครับ

สำรวจเรื่องราวเกี่ยวกับ 'สหรัฐ' ในแง่มุมหลากหลายกับ Thai PBS

อ้างอิง

  • About the Memorial, 9/11 Memorial & Museum
  • Flight 93 National Park Pennsylvania, National Park Service
  • For Many Who Were Present, The 9/11 Attacks Have Had A Lasting Mental Health Impact, NPR
    Hard lessons from 9/11, The Harvard Gazette
  • Mental Health, NYC 9/11 Health
  • Posttraumatic Stress Disorder Following the September 11, 2001, Terrorist Attacks, Am Psychol, 66(6)
  • Speaking of Psychology: Twenty years after 9/11, what have we learned about collective trauma? With Roxane Cohen Silver, PhD, Speaking of Psychology, Episode 157 [podcast] 
  • Timeline: The September 11 terrorist attacks, UVA Miller Center
  • World Trade Center Health Registry, NYC 9/11 Health

เล่าอดีต บันทึกปัจจุบัน รอบรู้ทุกวัน กับ Thai PBS On This Day: www.thaipbs.or.th/OnThisDay

ภาพของย่านโลว์เวอร์ แมนฮัดตัน ซึ่งเคยมีตึกแฝดตั้งอยู่ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของกลุ่มตึกวันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (ภาพจาก: Chip Somodevilla/Getty Images via AFP)

แท็กที่เกี่ยวข้อง

การก่อการร้ายสหรัฐอเมริกาเหตุวินาศกรรม 9/11การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยThai PBS On This Day
พีรชัย พสุทันท์

ผู้เขียน: พีรชัย พสุทันท์

ศิษย์เก่าอักษร จุฬาฯ และโปรแกรมปริญญาโททุน EU ด้านวรรณกรรมยุโรปในฝรั่งเศสและกรีซ ผู้ชอบพาตัวเองไป (หลง) อยู่ในกระแสพหุวัฒนธรรม และเปิดเพลง ABBA ประโลมชีวิตทุกครั้งที่เขียนงาน | porrorchor.com

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด