สงครามโลกครั้งที่ 2 มีเรื่องราวและวีรกรรมมากมายที่ยังคงได้รับการพูดถึงจนถึงวันนี้ รวมไปถึงภารกิจของ ‘กลุ่มรหัสลับนาวาโฮ (Navajo code talkers)’
รหัสลับนาวาโฮ เป็นวิธีการติดต่อสื่อสารลับที่ทหารชนพื้นเมืองอเมริกันใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แน่นอนว่า รหัสลับสำคัญอย่างยิ่งในการติดต่อสื่อสารช่วงสงครามและยามสู้รบ หากความลับหรือกลยุทธ์ใด ๆ รั่วไหล ก็อาจชี้เป็นชี้ตายภารกิจของกองทัพได้ ดูเหมือนว่ารหัสลับนาวาโฮนั้น “เจาะได้ยาก” และซับซ้อนกว่าวิธีการสื่อสารแบบอื่น ๆ แต่สุดท้ายก็ใช้ได้ผล
‘D-AH CHA WOL-LA-CHEE TKIN CLA-GI-AIH SHUSH DIBEH’ หรือ Thai PBS จึงขอพาทุกคนมารู้จักที่มาที่ไปของรหัสลับนาวาโฮ พร้อมลองเรียนรู้ศัพท์ที่นาวิกโยธินชนพื้นเมืองอเมริกันใช้จริงในช่วงออกรบ

รหัสลับนาวาโฮ กับความรักปิตุภูมิของชนพื้นเมืองอเมริกัน
แม้บนหน้าประวัติศาสตร์ กลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกัน หรือ อเมริกันอินเดียน (American Indians) จะถูกขับไล่และกดขี่จากผู้ที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาใหม่ แต่พวกเขาก็ยังคงเคารพรักต่อแผ่นดินเกิดและดูแลคนทุกคนในชุมชนของตัวเอง เมื่อสงครามปะทุขึ้น ชาวชนพื้นเมืองอเมริกันตัดสินใจเข้าร่วมกองทัพด้วยสำนึกรักปิตุภูมิ (patriotism) ขณะเดียวกัน คนส่วนหนึ่งมองว่า การรับใช้ชาติเช่นนี้เป็นการเลื่อนสถานะทางสังคม มีรายได้มั่นคง และทำให้พวกเขาออกเดินทางรอบโลก
ดังนั้น ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 จึงมีชายชาวชนพื้นเมืองอเมริกันราว 12,000 คนเข้าร่วมกองทัพ คิดเป็นร้อยละ 25 ของผู้ชายชนพื้นเมืองทั้งหมดของอเมริกาในตอนนั้น และในสงครามครั้งเดียวกันนั้นเอง ทหารฝ่ายสื่อสารจากชนพื้นเมืองชอกทอว์ (Choctaw) และกลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกันอื่น ๆ เริ่มใช้ ‘ภาษาชนเผ่า (native languages)’ ของตัวเองเพื่อโทรศัพท์ส่งข่าวสารการรบ หลายสิบปีถัดมา เมื่อสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเต็มตัว ชาวชนพื้นเมืองอเมริกันและภาษาของพวกเขาก็มีบทบาทมากขึ้นตามไปด้วย
ชาวอเมริกันชนพื้นเมืองเกือบ 45,000 จากประชากรทั้งหมดไม่ถึง 400,000 คน เข้าประจำการในกองทัพช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยพวกเขามาจากกลุ่มชนพื้นเมืองต่าง ๆ ไม่ต่ำกว่า 14 กลุ่ม เช่น โกแมนเช (Comanche), เมสกวากิ (Meskwaki), ชิปเปวา (Chippewa) และโฮปิ (Hopi) ต่อมา ฟิลิป จอห์นสตัน (Philip Johnston) ทหารผ่านศึกจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดความคิดที่นำ ‘ภาษานาวาโฮ (Navajo language)’ มาใช้ในการส่งข้อความลับยามสงคราม จอห์นสตันเติบโตมาในเขตคุ้มครองชาวพื้นเมืองนาวาโฮ และรู้ภาษานาวาโฮจนเคยเป็นล่ามปกป้องสิทธิของชนพื้นเมืองมาก่อน ยิ่งเขาเคยเห็นว่ามีทหารชนพื้นเมืองอเมริกันพูดภาษาชนเผ่าช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 จอห์นสตันจึงโน้มน้าวนาวิกโยธินสหรัฐ (Marine Corps) ให้ใช้ภาษานาวาโฮเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ

อาจเป็นเรื่องย้อนแย้งอยู่เหมือนกันที่กองทัพสหรัฐใช้ภาษาชนเผ่าระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ชาวชนพื้นเมืองดั้งเดิมในประเทศถูกบังคับให้ไปเรียนที่โรงเรียนรัฐและต้องพูดภาษาอังกฤษ บางคนอาจถูกทำโทษหากพูดภาษาชนเผ่าของตัวเอง อย่างไรก็ดี หลังจากทดลองส่งข้อความในภาษานาวาโฮ นาวิกโยธินสหรัฐก็ตัดสินใจตั้งโรงเรียนภาษาลับ และเกณฑ์ชาวชนพื้นเมืองนาวาโฮ 29 คนมาร่วมพัฒนารหัสลับใหม่นี้ขึ้นมา
รหัสลับนาวาโฮ และชัยชนะที่อิโวจิมาช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ภาษาชนเผ่าส่วนมากไม่มีตัวหนังสือ และถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นผ่านมุขปาฐะ ดังนั้น การเรียนรู้รหัสลับนาวาโฮต้องอาศัยความจำและความพยายามอย่างมาก รหัสลับนาวาโฮแบ่งด้วยกัน 2 ประเภท รหัสประเภทแรก (Type One) คือการเรียกตัวอักษรภาษาอังกฤษ (alphabet) 26 ตัวด้วยคำศัพท์จากภาษานาวาโฮ เช่น ตัว A สามารถแทนได้ด้วยคำว่า ‘WOL-LA-CHEE’ (Ant = มด), ‘BE-LA-SANA’ (Apple = แอปเปิล) หรือ ‘TSE-NILL’ (Axe = ขวาน) โดยตัวอักษรภาษาอังกฤษทั้งหมด แทนได้ด้วยศัพท์จากภาษานาวาโฮ ดังนี้

เวลาที่นักพูดรหัสลับนาวาโฮสื่อสารไปหาคู่นักถอดรหัสของตัวเอง ก็จะพูดศัพท์ในภาษานาวาโฮ 1 คำ แทนตัวอักษรภาษาอังกฤษ 1 ตัว ตัวอย่างเช่น ถ้าจะพูดคำว่า ‘EAT’ (กิน) เราอาจต้องพูดว่า ‘AH-JAH (E) / WOL-LA-CHEE (A) / D-AH (T)’ แต่บางครั้งการสะกดทีละตัวก็อาจจะไม่ทันท่วงที กลุ่มรหัสลับนาวาโฮจึงพัฒนารหัสประเภทสอง (Type Two) ขึ้นมา โดยใช้ภาษานาวาโฮบัญญัติศัพท์เฉพาะเอาไว้เรียกพาหนะ อาวุธ ประเทศ ตำแหน่งทางทหาร หรือคำสั่งต่าง ๆ อาทิ
- อเมริกา: NE-HE-MAH (ความหมายตรงตัวคือ ‘แม่ของเรา’)
- อเมริกาใต้: SHA-DE-AH-NE-HI-MAH (‘ใต้แม่ของเรา’)
- บริเตน: TOH-TA (‘ระหว่างน่านน้ำ’)
- รัสเซีย: SILA-GOL-CHI-IH (‘ทหารแดง’)
- เยอรมนี: BESH-BE-CHA-HE (‘หมวกเหล็ก’)
- อินเดีย: AH-LE-GAI (‘เสื้อผ้าขาว’)
- กองบิน: WO-TAH-DE-NE-IH (‘กำลังทางอากาศ’)
- เครื่องบินลาดตระเวน: GA-GIH (‘อีกา’)
- เครื่องบินขับไล่: DA-HE-TIH-HI (‘นกฮัมมิงเบิร์ด’)
- กองเรือ: TOH-DINEH-IH (‘กำลังทางน้ำ’)
- เรือรบ: LO-TSO (‘วาฬ’)
- เรือดำน้ำ: BESH-LO (‘ปลาเหล็ก’)
- เรือพิฆาต: CA-LO (‘ฉลาม’)
- ระเบิด: A-YE-SHI (‘ไข่’)
- ระเบิดมือ: NI-MA-SI (‘มันฝรั่ง’)
- ผู้บัญชาการ/แม่ทัพ/พลเอก: BIH-KEH-HE (‘หัวหน้าสงคราม’)
- พลตรี: SO-NA-KIH (‘สองดาว’)
- พลจัตวา: SO-A-LA-IH (‘หนึ่งดาว’)
- หมวดทหาร: HAS-CLISH-NIH (‘โคลน’)
ตลอดเวลาที่สหรัฐฯ ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 มีนาวิกโยธินชนพื้นเมืองอเมริกันปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนักพูด-ถอดรหัสลับราว 400-500 คน อีกทั้งทหารชาวชนพื้นเมืองอเมริกันก็กระจายตัวอยู่ในพื้นที่สงครามแทบทุกภูมิภาค แต่สถานการณ์ในแทบแปซิฟิกนั้นเข้มข้นกว่าพื้นที่อื่น ๆ เนื่องจากทหารญี่ปุ่นมักจะจงใจเล็งเป้าหมายที่เป็นหน่วยแพทย์และหน่วยสื่อสารทหารเป็นพิเศษ กลุ่มถอดรหัสนาวาโฮในเขตแปซิฟิกจึงต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลาพร้อมแบกอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ ไปด้วย แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็ปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จ พันตรีโฮเวิร์ด คอนเนอร์ (Maj. Howard Conner) จากกองพลนาวิกโยธินที่ 5 เคยกล่าวถึงความสำคัญของชาวชนพื้นเมืองอเมริกัน ที่ร่วมอยู่เบื้องหลังชัยชนะในยุทธการอิโวจิมา (Battle of Iwo Jima) ไว้ว่า
หากไม่ใช่เพราะชาวชนพื้นเมืองนาวาโฮ นาวิกฯ คงจะยึดอิโวจิมาได้ไม่สำเร็จ (Were it not for the Navajos, the Marines would never have taken Iwo Jima.)

แน่นอนว่าภารกิจของกลุ่มรหัสลับนาวาโฮต้องถูกเก็บไว้เป็นความลับ จนในปี 1968 มีการเผยแพร่รหัสลับดังกล่าวสู่สาธารณชน 14 ปีถัดมา หรือปี 1982 ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน (Ronald Reagan) ประกาศให้ 14 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันกลุ่มรหัสลับนาวาโฮแห่งชาติสหรัฐ (National Navajo Code Talkers Day) เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของชาวชนพื้นเมืองอเมริกันทุกคนผู้รับใช้ชาติระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และในปี 2001 กลุ่มรหัสลับนาวาโฮดั้งเดิมทั้ง 29 คนได้รับเหรียญทองรัฐสภาสหรัฐ (Congressional Gold Medal) ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดที่รัฐสภาสหรัฐมอบให้พลเรือนหรือสถาบันที่ทำคุณประโยชน์อย่างยิ่งให้แก่ประเทศ

ภาษาและวัฒนธรรมของคนทุกกลุ่มล้วนมีเอกลักษณ์และความสวยงาม และหลายครั้งก็ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้อย่างที่เราเห็นกันแล้วในเรื่องราว ‘รหัสลับนาวาโฮ’ ของสหรัฐอเมริกา ดังนั้น การรักษาและการเรียนรู้วัฒนธรรมย่อยจึงจำเป็นอย่างยิ่งในสังคมทุกหนแห่ง นอกจากเราจะได้เข้าใจความหลากหลายแล้ว ก็ยังเสริมสร้างความตระหนักรู้ไปในตัวด้วยว่า มนุษย์ทุกคนล้วนมีศักดิ์ศรีและคุณค่าเท่าเทียมกัน
มองอดีต สะท้อนปัจจุบัน ไปกับบทความประวัติศาสตร์รอบโลกจาก Thai PBS
- ‘8888’ การลุกฮือพลิกชะตาเมียนมา
- ครบ 80 ปี “การประชุมยัลตา” จุดตัดสองสงคราม
- เส้นขนานที่ 38 ที่ยากจะบรรจบกัน ของสงครามเกาหลีเหนือ-ใต้

อ้างอิง
- 1892: Birth of Philip Johnston - whose idea to use the Navajo language as a code during WWII would save countless lives., National Cryptologic Foundation
- American Indian Code Talkers, The National WWII Museum New Orleans
- Navajo Code Talkers and the Congressional Gold Medal, VA News
- National Navajo Code Talkers Day, National Veterans Memorial and Museum
- Native Words, Native Warriors – Chapter 4: Intelligence and Bravery, Smithsonian National Museum of the American Indian
- Navajo Code Talkers' Dictionary, Naval History and Heritage Command
- Photograph of first 29 Navajo U.S. Marine Corps Code-Talker Recruits being Sworn in at Fort Wingate, NM, 1942, National Archives
- Proclamation 4954 -- National Navaho Code Talkers Day, Ronald Reagan Presidential Library & Museum
เล่าอดีต บันทึกปัจจุบัน รอบรู้ทุกวัน กับ Thai PBS On This Day: www.thaipbs.or.th/OnThisDay