Loading...

แชร์

Copied!

โพสต์อ้าง “อนุทิน” ยื่นขอต่ออายุรัฐบาล 2 ปี ที่แท้ข่าวปลอม ทำคนหลงดูนับแสน

29 ต.ค. 6815:01 น.
การเมือง#ข่าวปลอม
โพสต์อ้าง “อนุทิน” ยื่นขอต่ออายุรัฐบาล 2 ปี ที่แท้ข่าวปลอม ทำคนหลงดูนับแสน

Thai PBS Verify พบแหล่งที่มาจาก : X

นายอนุทิน ชาญวีรกูล

ภาพบัญชี X แชร์ภาพนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและข้อความขยายวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเนื่องจากการจัดการพระบรมศพ พระพันปีหลวงชนนี

Thai PBS Verify พบบัญชี X แชร์ภาพ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมข้อความในภาพระบุว่าอนุทินประกาศจะเป็นนายกจนครบวาระอีกปีสองปี เพื่อจะจัดงานพระบรมศพ เตรียมยื่นสำนักพระราชวัง ขอพระบรมราชนุญาติประกาศงดการใช่รัฐธรรมนูญมาตรา 151 ชั่วคราวเพื่อระงับการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ” โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “อ้าว ถ้าจริง อีพรรคกีบส้ม มึงต้องรออีกนานนะ” โดยโพสต์ดังกล่าวมีผู้ชมไปถึง 119,000 ครั้ง รวมถึงเข้ามาการแสดงความรู้สึก 803 ครั้ง และรีโพสต์ต่อไปกว่า 175 ครั้งด้วยกัน ซึ่งผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่เชื่อว่า โพสต์ดังกล่าวเป็นเรื่องจริง 

นอกจากนีัยังพบเนื้อหาเดียวกันมีการแชร์ไปยัง เฟซบุ๊ก และ Tiktok อีกด้วย

ภาพเก่าถูกสวมข้อความเท็จสร้างข่าวบิดเบือน

ต่อมา Thai PBS Verify นำภาพไปตรวจสอบด้วยเครื่องมือตรวจสอบภาพ Google Lens  พบว่าภาพในโพสต์ดังกล่าวเป็นภาพที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีแถลงข่าว หลังรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 68 จากเว็บไซต์ Thai PBS (คลิกเพื่อดู เนื้อหาต้นฉบับที่บันทึกไว้)

นายอนุทิน ชาญวีรกูล

ภาพการตรวจสอบด้วย Google Lens แสดงให้เห็นว่าไปตรงกับข่าวของเว็บไซต์ Thai PBS

ภาพจากโพสต์เท็จ (ซ้าย) เปรียบเทียบกับ ภาพข่าวนายกรัฐมนตรี แถลงข่าว หลังรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 68 จากเว็บไซต์ Thai PBS (ขวา)

ภาพจากโพสต์เท็จ (ซ้าย) เปรียบเทียบกับ ภาพข่าวนายกรัฐมนตรี แถลงข่าว หลังรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 68 จากเว็บไซต์ Thai PBS (ขวา)

โฆษกรัฐบาลยืนยัน “ข่าวปลอม” 

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับ Thai PBS Verify ว่า จากโพสต์ดังกล่าวที่อ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จะขอต่ออายุวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปอีก 1 – 2 ปี เพื่อจัดงานพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ถือว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีการกล่าวถึงเรื่องนี้ โดยนายกรัฐมนตรีพูดเสมอว่า จะยุบสภาวันที่ 31 ม.ค. 69 เชื่อว่าประเด็นนี้เป็นเพียงการหยิบยกขึ้นมาเพื่อจะดิสเครดิตท่านนายกฯ เพียงเท่านั้น 

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ประเด็นเตรียมยื่นสำนักพระราชวัง ขอพระบรมราชานุญาตประกาศงดการใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 151 ชั่วคราวยืนยันว่า ตั้งแต่การจัดการพระราชพิธีฯ จนถึงการพิธีลงนาม “ถ้อยแถลงผลการพบหารือ” ระหว่างผู้นำไทยและกัมพูชา และกลับมาประชุมงานต่อ ไม่มีการพูดถึงและไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน 

เปิดไทม์ไลน์ของนายกรัฐมนตรี ช่วงวันที่ 25 -28 ต.ค. 68 

  • วันที่ 25 ต.ค. 68 นายกรัฐมนตรีได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 68 กำหนดกรอบงานพระราชพิธีและมาตรการถวายความอาลัย โดยเห็นชอบแนวทางปฏิบัติให้ส่วนราชการลดธงครึ่งเสา 30 วัน, ข้าราชการไว้ทุกข์ 1 ปี, และขอความร่วมมือประชาชนแต่งกายไว้ทุกข์ 90 วัน – ขอความร่วมมือภาคธุรกิจบันเทิงงดหรือลดกิจกรรมรื่นเริง 30 วัน (คลิกเพื่อดู เนื้อหาต้นฉบับที่บันทึกไว้)
  • วันที่ 26 – 28 ต.ค. 68  นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล เดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และพิธีที่เกี่ยวข้อง โดยได้ลงนามเอกสารสำคัญทางการทูต รวมถึง ปฏิญญาร่วมกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา “ว่าด้วยแนวทางการบริหารจัดการชายแดนไทย–กัมพูชาเพื่อสันติภาพ” ซึ่งมีประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีมาเลเซียร่วมเป็นสักขีพยาน โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยจะยังไม่เปิดด่านชายแดน จนกว่ากัมพูชาจะดำเนินการตามเงื่อนไข 4 ข้อที่ไทยกำหนดไว้ก่อนหน้านี้อย่างเป็นรูปธรรม และชี้แจงคำพูดเรื่อง “การรุกล้ำ”: ไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยรุกล้ำกัมพูชา แต่เป็นความผิดพลาดที่ “ตกคำว่า พื้นที่อ้างสิทธิ์” ไป ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน (คลิกเพื่อดู เนื้อหาต้นฉบับที่บันทึกไว้) ขณะเดียวกัน นายกฯ ยืนยันว่าการลงนาม MOU ความร่วมมือด้านแร่ธาตุหายากกับสหรัฐฯ นั้น ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม. นัดพิเศษ) แล้ว และยืนยันว่า MOU นี้ไม่ใช่การให้สัมปทาน และ ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่เป็นเพียงการแสดงท่าทีที่เป็นมิตรเพื่อแสวงหาความร่วมมือทางเทคโนโลยีและผลบวกด้านการค้า  
  • วันที่ 28 ต.ค. 68 นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมแทน พร้อมฝากข้อสั่งการให้หน่วยงานสามารถจัดกิจกรรมถวายความอาลัยได้ตามประเพณี แต่ให้ปรับรูปแบบให้เหมาะสมและสมพระเกียรติ (คลิกเพื่อดู เนื้อหาต้นฉบับที่บันทึกไว้) และนายอนุทิน ชาญวีรกูลให้สัมภาษณ์ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 ยืนยันว่า การยุบสภาฯ เป็นไปตามเดิม คือวันที่ 31 ม.ค. 69 พร้อมปฎิเสธ กระแสข่าวพยายามเบรกฝ่ายค้านไม่ให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงนี้  (คลิกเพื่อดู เนื้อหาต้นฉบับที่บันทึกไว้)

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบไทม์ไลน์ทั้งหมด Thai PBS Verify พบว่า ทั้งในการประชุมและการให้สัมภาษณ์ต่าง ๆ ไม่พบว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล มีการพูดถึงเรื่องการต่ออายุการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือ การยื่นของดใช้มาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ที่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่อย่างใด

มาตรา 151 รัฐธรรมนูญ 2560: การเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ทั้งนี้ มาตรา 151 กำหนดว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายรัฐมนตรีรายบุคคลหรือทั้งคณะรัฐมนตรี ต้องมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ไม่น้อยกว่า หนึ่งในห้าของจำนวน ส.ส. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ในขณะนั้น

หากสภามี ส.ส. ครบ 500 คน จะต้องมีอย่างน้อย 100 คนขึ้นไป ร่วมลงชื่อเสนอญัตติ เมื่อถึงเวลายื่น หากจำนวน ส.ส. เปลี่ยนแปลงไป เช่น มีการลาออก เสียชีวิต ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ หรือมีคำสั่งยุบพรรค การคำนวณจำนวน “ส.ส. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่” จะอิงจากจำนวน ส.ส. ที่ยังดำรงตำแหน่งจริงในเวลานั้น  (คลิกเพื่อดู เนื้อหาต้นฉบับที่บันทึกไว้)

เรื่องจริงเป็นอย่างไร

Thai PBS Verify ตรวจสอบพบว่า ข่าวดังกล่าวเป็น ข่าวปลอมที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อโจมตีนายกรัฐมนตรี โดยอาศัยจังหวะช่วงที่ประเทศอยู่ในช่วงจัดงาน พระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อหวังสร้างความเสียหายทางการเมือง

คาดว่าต้องการดิสเครดิตนายกรัฐมนตรี ในช่วงใกล้สิ้นปี ซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้ถึงกำหนด บันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับพรรคประชาชน เกี่ยวกับการ ยุบสภาในวันที่ 31 มกราคม 2568 จึงอาจหวังใช้ช่วงเวลานี้สร้างกระแสให้เข้าใจผิดว่า นายกรัฐมนตรีอาจไม่ทำตามข้อตกลง และพยายามจะดำรงตำแหน่งต่อไป

กระบวนการตรวจสอบ

  1. ตรวจสอบภาพด้วยเครื่องมือตรวจสอบภาพ: เมื่อนำภาพในโพสต์ไปตรวจสอบด้วย Google Lens พบว่า เป็นภาพข่าว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงข่าว หลังรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 68 
  2. ตรวจสอบผ่านแหล่งข่าว: Thai PBS Verify สอบถามไปยังโฆษกรัฐบาลยืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าวไปเป็นความจริง   
  3. ตรวจสอบผ่านแหล่งข้อมูล : นายกรัฐมนตรียืนยันว่าการยุบสภายังคงเป็นไปตามไทม์ไลน์วันที่ 31 ม.ค. 69 พร้อมปฎิเสธ กระแสข่าวพยายามเบรกฝ่ายค้านไม่ให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ผลกระทบข้อมูลเท็จ

  1. สร้างความสับสนในสังคม: ประชาชนอาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีหรือขั้นตอนทางกฎหมาย ทำให้เกิดความวิตกกังวลหรือโต้เถียงโดยไม่จำเป็น
  2. ลดความน่าเชื่อถือของสถาบัน: ข้อมูลบิดเบือนอาจทำให้รัฐมนตรีหรือรัฐบาลถูกมองในแง่ลบโดยไม่มีเหตุผลรองรับ
  3. กระทบต่อความสงบเรียบร้อย: การเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องสำคัญทางการเมืองหรือพิธีสำคัญ อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดทางสังคมหรือความขัดแย้งในพื้นที่ออนไลน์
  4. เสี่ยงต่อการแพร่กระจายข่าวปลอม: หากผู้รับข้อมูลแชร์ต่อโดยไม่ตรวจสอบ จะทำให้ข่าวเท็จแพร่หลายและยากต่อการแก้ไข

ภาพคอมเมนต์ที่เชื่อว่าโพสต์ดังกล่าวคือเรื่องจริง

ภาพคอมเมนต์ที่เชื่อว่าโพสต์ดังกล่าวคือเรื่องจริง

ข้อแนะนำเมื่อได้ข้อมูลเท็จนี้ ?

  1. ตรวจสอบแหล่งข่าว: ยืนยันว่าข้อมูลมาจาก สำนักข่าวหรือประกาศทางการ เช่น ทำเนียบรัฐบาล
  2. ตั้งคำถามกับเนื้อหา: พิจารณาว่าเนื้อหามีเจตนา สร้างความตื่นตระหนกหรือบิดเบือน หรือไม่