Loading...

แชร์

Copied!

โพสต์อ้าง “ไอซ์ รักชนก” ถูกจับ ม.112 พร้อมยุบพรรคประชาชน แท้จริงภาพเก่า-หลอกกดลิงก์เว็บไซต์ลามก

27 ต.ค. 6817:18 น.
การเมือง#ข่าวบิดเบือน
โพสต์อ้าง “ไอซ์ รักชนก” ถูกจับ ม.112 พร้อมยุบพรรคประชาชน แท้จริงภาพเก่า-หลอกกดลิงก์เว็บไซต์ลามก

พบเพจเฟซบุ๊กอ้าง "ไอซ์ รักชนก" ถูกจับ ม.112 พร้อมสั่งยุบพรรคประชาชน ตรวจสอบพบเป็นเพียงภาพเก่าปี 66 นำมาสร้างร่วมกับข้อความบิดเบือนหวังสร้างความเข้าใจผิด พร้อมแนบลิงก์ลวงเข้าเว็บไซต์ลามก เสี่ยงสูญเสียข้อมูลส่วนตัว

Thai PBS Verify พบแหล่งที่มาจาก : Facebook

ไอซ์ รักชนก

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงโพสต์อ้าง “ไอซ์ รักชนก” ถูกจับคดี ม.112

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “นักรบแดน ใต้” โพสต์ภาพของ นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน พร้อมระบุข้อความ

ด่วนล่าสุด สส.ไอซ์ รักชนก ถูกจับกุมระหว่างเดินทางมารัฐสภา ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เวลา 14.56

กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้ออกหมายจับ นางสาวรักชนก ศรีนอก ตามประมวลกฎหมายมาตรา 112 และนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบ กำหนดโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีกล่าวหา รักชนก ศรีนอก (ล้มล้างการปกครอง) โดย นางสาวรักชนก ศรีนอก ให้การรับสารภาพและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้ยุบพรรคประชาชน และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 10 ปี เนื่องจากเห็นว่า การเคลื่อนไหวผลักดันการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มีลักษณะเป็นการล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49

แหล่งที่มา sanook

พร้อมกับแนบลิงก์ในโพสดังกล่าว จนทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความรู้สึกกว่า 1,500 ครั้ง รวมไปถึงแชร์โพสต์ดังกล่าวไปถึง 75 ครั้งด้วยกัน

ภาพเก่าพร้อมข้อความบิดเบือน แนบลิงก์ลามกหลอกคลิก

Thai PBS Verify ตรวจสอบด้วย Google Lens พบว่า ภาพดังกล่าวถูกนำมาจากโพสต์ของผู้ “benben.min” ที่โพสต์ภาพดังกล่าวไว้ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา โดยเป็นภาพการประชุมของสส.พรรคประชาชน ที่เดินทางกันมาประชุมที่ทำการพรรคประชาชน เมื่อเดือน ก.ย. 68 ที่ผ่านมา

google lens

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงผลการค้นหาด้วย Google Lens

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงโพสต์ปลอม (ซ้าย) เปรียบเทียบกับ คลิป TikTok การประชุมของสส.พรรคประชาชน ที่พบว่าเป็นภาพเดียวกัน (ขวา)

ขณะที่อีกหนึ่งภาพ ถูกนำมาจากข่าวของ Thai PBS โดยเป็นข่าวศาลตัดสินจำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญาไอซ์ รักชนก คดี ม.112 (คลิกเพื่อดูเนื้อหาต้นฉบับที่บันทึกไว้) ที่เผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. 66

Google lens

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงผลการค้นหาด้วย Google Lens

นอกจากนี้จากการตรวจสอบลิงก์ที่โพสต์ดังกล่าวได้แนบไว้ ปรากฏว่าลิงก์ดังกล่าวเป็นเว็บไซต์ลามก เพื่อหลอกให้ผู้ที่สนใจในข่าวกดเข้าไป ซึ่งเสี่ยงตกเป็นเหยื่อมัลแวร์หรือหน้าเว็บไซต์ปลอมเพื่อหลอกขโมยข้อมูล

แหล่งข่าวที่ถูกอ้างอิงยืนยันถูกแอบอ้าง

ทั้งนี้ Sanook.com ได้ออกมายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข่าวปลอมดังกล่าวแต่อย่างใด โดยได้ชี้แจงผ่าน X พร้อมระบุว่า “จากกรณีที่มีการเผยแพร่ ข่าวปลอม ซึ่งแนบลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่มีลักษณะเป็นสแปม และกำลังถูกแชร์อย่างแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ในขณะนี้ โดยมีการอ้างว่าแหล่งที่มาของข่าวมาจาก Sanook

ทาง Sanook ขอเรียนชี้แจงว่า ข่าวหรือบทความดังกล่าว ไม่ใช่ข่าวที่เผยแพร่โดยทีมงานของเรา และ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเนื้อหาดังกล่าว จึงขอให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อ หรือกดคลิกลิงก์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากอาจเป็น เฟกนิวส์ (Fake News) หรือมีความเสี่ยงที่จะเป็น สแปม (Spam) ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายต่อข้อมูลส่วนตัว ทรัพย์สิน หรือความปลอดภัยของท่านได้

ทาง Sanook ไม่ได้นิ่งนอนใจ และขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบที่มาของข้อมูล พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันมิให้เกิดการเผยแพร่ข้อมูลเท็จในนามของเราอีกในอนาคต

ทั้งนี้ ขอให้ผู้อ่านทุกท่าน ตรวจสอบและติดตามข่าวสารจากช่องทางอย่างเป็นทางการของ Sanook เท่านั้น ทางทีมงานขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความเชื่อมั่นและติดตามเราอย่างต่อเนื่อง ทีมงาน Sanook

sanook

เว็บไซต์ Sanook.com ชี้แจงผ่าน X ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข่าวปลอม พร้อมเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ

“ไอซ์ รักชนก” ห่วงคนไม่รู้ ถูกหลอกหลงกดลิงก์ปลอม

ด้าน ไอซ์ รักชนก ยืนยันกับ Thai PBS Verify ว่า ข่าวดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง และปัจจุบันก็ยังไม่ได้อยู่ในคุก รวมถึงยังไม่ได้เข้าคุก แต่ก็ทราบว่ามีคนจำนวนมากที่เชียร์ว่าน่าจะติดคุกไว ๆ อะไรแบบนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้น่าจะเป็นเพราะว่า ตนเองมีคดีที่ยังอยู่ในชั้นอุทธรณ์ ก็คือคดี ม.112 ซึ่งก็ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม

ไอซ์ รักชนก ศรีนอก

ไอซ์ รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน

ส่วนข่าวดังกล่าวส่งผลกระทบกับตนเองมากน้อยขนาดไหนนั้น แม้จะถือว่าไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร และยังคงทำงานเต็มที่อยู่แล้ว แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ การหลอกลวงดังกล่าวอาจจะกระทบกับผู้ที่ไม่มี Social Media Literacy หรือไม่เท่าทันโลกโซเชียล

หลาย ๆ คนยังแยกไม่ออกว่า อันไหนเป็นข่าวจริง อันไหนเป็นข่าวปลอม รวมถึงไม่รู้วิธีในการที่จะ Fact-Check ด้วย ซึ่งถือว่าอันตราย และจริง ๆ ข่าวปลอมหลาย ๆ ข่าว ที่สามารถหลอกผู้คนได้สำเร็จ เนื่องจากมักใช้ อคติ หรือ Bias ซึ่งบางคนอาจจะมองว่าตลก หรือเป็นเพียงแค่ข่าวปั่น ที่ทำมาเพื่อความสนุกสำหรับคนเจน z หรือว่าคนที่อายุต่ำ 30 แต่ในความเป็นจริงมันอาจจะไม่ขำ ถ้าเป็นคนในครอบครัวของเรา

อย่างไรก็ตามหากเป็นข่าวปลอมที่ปั่นเป็นข่าว Fake-News ทั่วไป ที่ไม่ส่งผลกับชีวิต คลิกเข้าไปก็อาจจะไม่เป็นไร หรืออย่างมากก็แค่ภาพลักษณ์ดูไม่ดี ภาพลักษณ์ดูเป็นคนที่ไม่ทันโลกโซเชียลมีเดีย แต่ว่าบางทีมันอาจจะร้ายแรงไปถึงขนาดที่ว่า อาจจะเป็นสแกมเมอร์ หรือฟิชชิ่ง หรือเป็นเว็บพนัน เป็นการหลอกลงทุน หรือหลอกให้ซื้อของอะไรอย่างนี้ ซึ่งถ้าเป็นในกรณีนี้ แน่นอนว่าคนที่ไม่มี Media Literacy ก็มีโอกาสคลิกเข้าไป หรือว่ามีโอกาสกรอกข้อมูลที่เป็นข้อมูลส่วนตัว และสุดท้ายอาจถูกหลอก โดนหลอกโดยแก๊งคอลเซนเตอร์ หรือเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซนเตอร์มากกว่า

คดีในปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการต่อสู้

สำหรับคดีของ “ไอซ์ รัชนก ศรีนอก” ในการต่อสู้คดีมาตรา 112 นั้น ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำคุก 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา แต่ศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี โดยวางหลักทรัพย์ 500,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำผิดในลักษณะเดียวกันนี้อีก และเมื่อเร็ว ๆ นี้ (ช่วงเดือน ธ.ค. 67) ศาลอาญามีคำสั่ง ยกคำร้องขอเพิกถอนการประกันตัว โดยเห็นว่าการกระทำไม่เข้าข่ายผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว ทำให้ยังสามารถต่อสู้คดีใน ชั้นศาลอุทธรณ์ต่อไปได้

กระบวนการตรวจสอบ

ตรวจสอบภาพและสื่อประกอบ  

  • ใช้เครื่องมือ Google Lens เพื่อตรวจสอบว่า ภาพนั้นเคยถูกเผยแพร่ที่ไหน เมื่อไร ซึ่งพบว่าภาพถูกนำมาจากหลายแหล่ง ทั้งจาก TikTok และจากภาพประกอบข่าว

ตรวจสอบเนื้อหาข้อความ 

  • ตรวจสอบรายละเอียดที่กล่าวถึง เช่น การออกหมายจับ หรือการตัดสินของศาล ว่ามีรายงานจริงหรือไม่จากแหล่งข่าวหลัก ซึ่งพบว่าเป็นข่าวเก่า โดยคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ลิงก์ที่แนบไว้ พบว่าเป็นเพียงเว็บไซต์ลามกเพียงเท่านั้น ไม่ใช่แหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือแต่อย่างใด

ตรวจสอบผ่านแหล่งอ้างอิง

  • ตรวจสอบแหล่งอ้างอิงดังกล่าว ซึ่งพบว่า เว็บไซต์ที่ถูกอ้างอิงได้ออกมายืนยันว่าข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอม ไม่ใช่ข่าวที่เผยแพร่โดยทีมงาน และ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเนื้อหาดังกล่าว

 

ผลกระทบเมื่อได้รับข้อมูลเท็จเหล่านี้

ผลกระทบต่อบุคคล: ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกเข้าใจผิด หรือถูกคุกคาม

ผลกระทบต่อสังคม: ทำให้ประชาชนสับสน ขาดความเชื่อมั่นต่อสื่อและกระบวนการยุติธรรม

ผลกระบทต่อความปลอดภัย: ผู้ใช้อาจคลิกลิงก์ที่มีมัลแวร์ จนสูญเสียข้อมูลส่วนตัว

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงส่วนหนึ่งของการแสดงความคิดเห็นในโพสต์เท็จ

ข้อแนะนำเมื่อได้ข้อมูลเท็จนี้ ?

อย่าแชร์ต่อทันที

  • หยุดการส่งต่อจนกว่าจะตรวจสอบแน่ชัดว่าเป็นข้อมูลจริง

  • ข่าวปลอมมักจะใช้ถ้อยคำเร้าอารมณ์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแชร์ต่อ

ตรวจสอบกับสื่อหลักหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • ตรวจสอบข่าวกับเว็บไซต์ของศาล, ตำรวจ, หรือสื่อหลัก เช่น Thai PBS หรือ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center Thailand)

รายงานโพสต์ที่เป็นเท็จ

  • ใช้ฟังก์ชัน “รายงาน (Report)” ของ Facebook หรือแพลตฟอร์มอื่น

  • หากพบลิงก์อันตราย ควรแจ้ง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT) หรือ ThaiCERT

ให้ความรู้คนรอบข้าง

  • อธิบายสั้น ๆ ว่าทำไมโพสต์นั้นเป็นข่าวเท็จ พร้อมแนบหลักฐานจากหน่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง เช่น Thai PBS Verify

  • ส่งเสริมวัฒนธรรม “คิดก่อนแชร์”