เวียดนาม กำลังเดินหน้าปฏิรูประบบราชการครั้งใหญ่เพื่อแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันและเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ ท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว โดยมีเป้าหมายระยะยาวในการยกระดับประเทศสู่การเป็นประเทศรายได้สูงภายในปี 2045
เวียดนามมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าประทับใจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเติบโตที่สูงถึง 7-8% ปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 7.09% ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคและของโลก อย่างไรก็ตาม ปัญหาคอร์รัปชันในระบบราชการยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ
กรณีที่สะท้อนความรุนแรงของปัญหาคอรัปชันในเวียดนามคือกรณีของนักธุรกิจหญิง เจือง มี ลาน ที่มีการยักยอกเงินมูลค่ามหาศาลถึง 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 3% ของ GDP ของเวียดนาม เหตุการณ์นี้ทำให้รัฐบาลเวียดนามต้องหันมา "กวาดบ้าน" ตัวเองอย่างจริงจัง
นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ ชิงห์ ได้ประกาศแผนการปฏิรูปที่มีเป้าหมายชัดเจนในการต่อสู้กับคอร์รัปชันและเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ โดยมีมาตรการหลักดังนี้:
ตามความเห็นของนักวิจัยจาก Istanbul İşık University การปฏิรูปครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเวียดนามในการปรับปรุงกลไกรัฐให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนในโลกปัจจุบัน รวมถึงรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าที่สำคัญกับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดนำเข้าสินค้าจากเวียดนามที่ใหญ่ที่สุด
เวียดนามมีเป้าหมายที่ท้าทายในการก้าวขึ้นเป็นประเทศรายได้สูงภายในปี 2045 หรืออีก 20 ปีข้างหน้า การปราบคอรัปชันและสร้างความโปร่งใสในระบบราชการจึงเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้เวียดนามบรรลุเป้าหมายนี้
การปฏิรูปครั้งใหญ่ของเวียดนามแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นจริงจังในการแก้ไขปัญหาคอรัปชันและเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ มาตรการที่เด็ดขาดในการลดขนาดระบบราชการและปรับโครงสร้างองค์กรภาครัฐอาจเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับประเทศอื่นๆ ที่กำลังเผชิญกับปัญหาคล้ายคลึงกัน
ความสำเร็จของเวียดนามในการปราบคอร์รัปชันจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดว่าประเทศนี้จะสามารถบรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศรายได้สูงภายในปี 2045 ได้หรือไม่ และจะเป็นตัวอย่างให้กับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ในการต่อสู้กับปัญหาคอรัปชันอย่างเป็นระบบ
ติดตามสาระเศรษฐกิจใกล้ตัว กับ "เฮียวิทย์" วิทย์ สิทธิเวคิณ ในรายการเศรษฐกิจติดบ้านได้ทาง www.thaipbs.or.th/Economics101
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
เศรษฐกิจติดบ้าน
ทำไมผู้บริหารระดับกลาง ต้องรับบทร้ายในองค์กร | เศรษฐกิจน่ารู้
Gen Z ไม่ทน ยอมตกงานถ้าไม่มีความสุข | เศรษฐกิจน่ารู้
ว่ายน้ำไปทำงาน กิจกรรมยอดฮิต ของชาวสวตเซอร์แลนด์ | เศรษฐกิจน่ารู้
อินเดียขึ้นแท่นอันดับ 1 ดึงดูดการลงทุนจากญี่ปุ่น : เศรษฐกิจน่ารู้
ทุบสถิติ นักท่องเที่ยวแห่เข้าญี่ปุ่น 37 ล้านคน | เศรษฐกิจน่ารู้
จบโทปริญญา ยุคนี้มีโอกาสตกงาน | เศรษฐกิจน่ารู้
เวียดนามเอาจริง ปราบคอร์รัปชันครั้งใหญ่ | เศรษฐกิจน่ารู้
คิดต่างทางการเมือง เหตุุผลการลาออกของคนรุ่นใหม่ในสหรัฐฯ | เศรษฐกิจน่ารู้
ถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ ทำไมไม่รวย | เศรษฐกิจน่ารู้
REVENGE QUITTING ล้างแค้นด้วยการลาออก | เศรษฐกิจน่ารู้
คนไทยทำงานหนักเกินค่าเฉลี่ยโลก | เศรษฐกิจน่ารู้
สินค้าจีนทะลัก อาเซียนระส่ำ | เศรษฐกิจน่ารู้
แบกรับรายจ่ายไม่ไหว หลายชาติจำใจ ปลดข้าราชการครั้งใหญ่ | เศรษฐกิจน่ารู้
TIK TOK แหล่งรวมข้อมูลเท็จทางการแพทย์ | เศรษฐกิจน่ารู้
สิงคโปร์กำหนดอายุขั้นต่ำในการเล่นโซเชียล | เศรษฐกิจน่ารู้
คอนโดฯ ปล่อยเช่ารายวัน ขุมทรัพย์ทุนจีน | เศรษฐกิจน่ารู้
เศรษฐกิจติดบ้าน
ทำไมผู้บริหารระดับกลาง ต้องรับบทร้ายในองค์กร | เศรษฐกิจน่ารู้
Gen Z ไม่ทน ยอมตกงานถ้าไม่มีความสุข | เศรษฐกิจน่ารู้
ว่ายน้ำไปทำงาน กิจกรรมยอดฮิต ของชาวสวตเซอร์แลนด์ | เศรษฐกิจน่ารู้
อินเดียขึ้นแท่นอันดับ 1 ดึงดูดการลงทุนจากญี่ปุ่น : เศรษฐกิจน่ารู้
ทุบสถิติ นักท่องเที่ยวแห่เข้าญี่ปุ่น 37 ล้านคน | เศรษฐกิจน่ารู้
จบโทปริญญา ยุคนี้มีโอกาสตกงาน | เศรษฐกิจน่ารู้
เวียดนามเอาจริง ปราบคอร์รัปชันครั้งใหญ่ | เศรษฐกิจน่ารู้
คิดต่างทางการเมือง เหตุุผลการลาออกของคนรุ่นใหม่ในสหรัฐฯ | เศรษฐกิจน่ารู้
ถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ ทำไมไม่รวย | เศรษฐกิจน่ารู้
REVENGE QUITTING ล้างแค้นด้วยการลาออก | เศรษฐกิจน่ารู้
คนไทยทำงานหนักเกินค่าเฉลี่ยโลก | เศรษฐกิจน่ารู้
สินค้าจีนทะลัก อาเซียนระส่ำ | เศรษฐกิจน่ารู้
แบกรับรายจ่ายไม่ไหว หลายชาติจำใจ ปลดข้าราชการครั้งใหญ่ | เศรษฐกิจน่ารู้
TIK TOK แหล่งรวมข้อมูลเท็จทางการแพทย์ | เศรษฐกิจน่ารู้
สิงคโปร์กำหนดอายุขั้นต่ำในการเล่นโซเชียล | เศรษฐกิจน่ารู้
คอนโดฯ ปล่อยเช่ารายวัน ขุมทรัพย์ทุนจีน | เศรษฐกิจน่ารู้