เมื่อเกิดสถานการณ์อันตรายขึ้น หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าการป้องกันตัวเองนั้นมีขอบเขตทางกฎหมายอย่างไร และสิทธิในการป้องกันตัวทำได้ถึงไหน บทความนี้จะอธิบายถึงหลักการและขอบเขตตามกฎหมายไทย พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
ตามหลักกฎหมาย หน้าที่ในการป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อบุคคลนั้นเป็นหน้าที่ของรัฐ ส่วนการป้องกันตัวเองจะสามารถทำได้เฉพาะในกรณีฉุกเฉินที่ไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากรัฐได้ทันที
สำหรับขอบเขตนั้น คือ สามารถป้องกันได้เท่าที่จำเป็น เพื่อให้ภยันตรายสูญหายไป เมื่อภยันตรายหยุดลงแล้ว การป้องกันก็ต้องยุติลงด้วย
การป้องกันตัวเองจะชอบด้วยกฎหมายเมื่อ:
สำคัญคือ หากอยู่ในที่สาธารณะและสามารถหลีกเลี่ยงหรือหนีได้ง่าย กฎหมายต้องการให้หนีก่อน ยกเว้นเมื่ออยู่ในบ้านของตนเอง จะไม่มีหน้าที่ต้องหนี
ตามมาตรา 69 ประมวลกฎหมายอาญา หากการป้องกันเกินกว่าความจำเป็น เช่น เมื่อเหตุการณ์หยุดลงแล้วแต่ยังคงใช้กำลังต่อ ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด หรืออาจไม่ลงโทษเลยหากเกิดจากความกลัวหรือความตกใจ
ตัวอย่างสถานการณ์ที่อาจได้รับการพิจารณาผ่อนผัน:
การพกพาอาวุธมีด ไม่ว่าจะเป็นมีดขนาดใดก็ตาม ถือเป็นความผิดตามมาตรา 371 ประมวลกฎหมายอาญา มีเพียงกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเท่านั้นที่สามารถอ้างได้ เช่น รู้ว่าลูกตกอยู่ในอันตรายและต้องใช้มีดในการช่วยเหลือ
สำหรับการพกพาปืนผิดกฎหมาย จะมีโทษหนักกว่าการพกพามีด และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
อย่างไรก็ตาม การที่บุคคลพกพาอาวุธผิดกฎหมายกับการใช้อาวุธเพื่อป้องกันตัวเองเป็นคนละเรื่องกัน หากในขณะเกิดเหตุใช้อาวุธอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ ก็อาจถือเป็นการป้องกันตนเองเองที่ชอบด้วยกฎหมาย
การเลือกวิธีป้องกันต้องดูจากลักษณะของภัยคุกคาม:
หัวใจสำคัญคือ ทำให้ภัยคุกคามหยุดลงได้อย่างแน่นอน และเมื่อหยุดแล้วต้องยุติการกระทำทันที
หากเกิดลูกหลงขณะป้องกันตัวเองโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่ได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อ แต่เป็นผลจากความพยายามป้องกันตนเองอย่างระมัดระวัง ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันตนเองที่ชอบด้วยกฎหมาย
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายแนะนำว่า:
การป้องกันตัวเองตามกฎหมายไทยต้องคำนึงถึงบริบทและสถานการณ์ในแต่ละกรณี ไม่มีคำตอบเดียวที่ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจหลักการและขอบเขตที่กฎหมายกำหนดไว้ เพื่อใช้สิทธิในการป้องกันตัวเองอย่างถูกต้องและเหมาะสม
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
วันใหม่วาไรตี้
Togetherness นิทรรศการศิลปะเพื่อความเท่าเทียม
HybridSure ชุดตรวจความบริสุทธิ์ของเมล็ดพันธุ์ลูกผสม
กุ้งฝอยตัวละบาท ปั้นชีวิตให้พอเพียง
"บั๋นหมี่หัวปลี" แซนด์วิชเวียดนามเพื่อสุขภาพจากดอกต้นกล้วย
สีสันวาไรตี้ | 5 ส.ค. 68
ป้องกันตัวอย่างไรไม่ให้เกินขอบเขต ไม่ให้ผิดกฎหมาย
วิชาจัดการความขัดแย้ง ในโรงเรียนชายแดน
เทคนิคการเลี้ยงแมลงมัน
สีสันวาไรตี้ | 6 ส.ค. 68
"แร้ง" ไขความลับผู้พิทักษ์ระบบนิเวศ
วัคซีนดูแลใจ ผู้ประสบภัยความขัดแย้ง ไทย – กัมพูชา
งานเซรามิกร่วมสมัย ศิลปะจากความเชื่อของคนรุ่นใหม่
จากบทเรียนในผืนดิน สู่แหล่งเรียนรู้ของชุมชน
สีสันวาไรตี้ | 7 ส.ค. 68
รู้ทันกันได้ : รู้ทัน/ป้องกัน/แชร์ คนไทยร่วมใจสู้ภัยข่าวปลอม
นครฮีลใจ : พังงาอันดามันเวลเนส ก้าวใหม่สู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
Make Money ไอเดียสร้างเงิน : คุกกี้พระเครื่อง ไอเดียขนมหวานที่ไม่ธรรมดา
พอดีพอเพียง : กะเพราสร้างรายได้ สร้างชีวิตเกษตรกรให้มั่นคง
สีสันวาไรตี้ (8 ส.ค. 68)
วันใหม่วาไรตี้
Togetherness นิทรรศการศิลปะเพื่อความเท่าเทียม
HybridSure ชุดตรวจความบริสุทธิ์ของเมล็ดพันธุ์ลูกผสม
กุ้งฝอยตัวละบาท ปั้นชีวิตให้พอเพียง
"บั๋นหมี่หัวปลี" แซนด์วิชเวียดนามเพื่อสุขภาพจากดอกต้นกล้วย
สีสันวาไรตี้ | 5 ส.ค. 68
ป้องกันตัวอย่างไรไม่ให้เกินขอบเขต ไม่ให้ผิดกฎหมาย
วิชาจัดการความขัดแย้ง ในโรงเรียนชายแดน
เทคนิคการเลี้ยงแมลงมัน
สีสันวาไรตี้ | 6 ส.ค. 68
"แร้ง" ไขความลับผู้พิทักษ์ระบบนิเวศ
วัคซีนดูแลใจ ผู้ประสบภัยความขัดแย้ง ไทย – กัมพูชา
งานเซรามิกร่วมสมัย ศิลปะจากความเชื่อของคนรุ่นใหม่
จากบทเรียนในผืนดิน สู่แหล่งเรียนรู้ของชุมชน
สีสันวาไรตี้ | 7 ส.ค. 68
รู้ทันกันได้ : รู้ทัน/ป้องกัน/แชร์ คนไทยร่วมใจสู้ภัยข่าวปลอม
นครฮีลใจ : พังงาอันดามันเวลเนส ก้าวใหม่สู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
Make Money ไอเดียสร้างเงิน : คุกกี้พระเครื่อง ไอเดียขนมหวานที่ไม่ธรรมดา
พอดีพอเพียง : กะเพราสร้างรายได้ สร้างชีวิตเกษตรกรให้มั่นคง
สีสันวาไรตี้ (8 ส.ค. 68)