ปลาทับทิมเป็นปลาน้ำจืดที่ได้รับความนิยมในการบริโภคอย่างมากในประเทศไทย ด้วยเนื้อที่นุ่ม หวาน และไม่มีกลิ่นคาว ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคทั่วไป วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับการเลี้ยงปลาทับทิมแบบมืออาชีพจากฟาร์มกลางเขื่อนที่จังหวัดระยอง ที่มีการเลี้ยงอย่างถูกหลักอนามัยและใส่ใจในทุกขั้นตอน
การเลี้ยงปลาทับทิมที่อ่างเก็บน้ำมีความพิเศษตรงที่เลี้ยงในรูปแบบกระชังกลางเขื่อน โดยมีกระชังปลาอยู่ประมาณ 400 - 450 กระชัง ซึ่งได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากกรมชลประทาน และมีกรมประมงเป็นผู้ดูแลกำกับ
การเลือกเลี้ยงกลางเขื่อนมีเหตุผลสำคัญคือ สภาพแวดล้อมที่ดีกว่า หากเลี้ยงชายฝั่ง น้ำฝนที่ไหลลงมาอาจนำพาสารเคมีจากการทำการเกษตร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปลาได้โดยตรง แต่กลางเขื่อนจะปลอดภัยกว่า ทำให้ได้ปลาทับทิมที่มีคุณภาพดีและปลอดภัยต่อผู้บริโภค
นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดจำนวนกระชังที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อคุณภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ โดยมีสูตรคำนวณที่ชัดเจนว่าอ่างขนาดนี้สามารถรองรับกระชังได้เท่าไหร่
1. ไม่มีกลิ่นดิน - หากเลี้ยงบนดินปลาจะชอบกินดิน ทำให้ส่วนท้องมีกลิ่น แต่การเลี้ยงในกระชังจะไม่มีปัญหานี้ ทำให้เนื้อปลาไม่มีกลิ่นคาวและมีรสชาติดีกว่า
2. สีของปลาสวยสด - น้ำในอ่างเก็บน้ำใสและมีคุณภาพดี ทำให้ปลาทับทิมมีสีสวยสด ไม่ซีดเหมือนการเลี้ยงในน้ำขุ่น
3. ตัวปลาอ้วนและเนื้อแน่น - ปลาที่เลี้ยงในกระชังจะกินอาหารได้เยอะกว่าปลาในบ่อ ทำให้ตัวอ้วนและเนื้อแน่นกว่า
4. การจัดการที่ดีกว่า - สามารถควบคุมคุณภาพน้ำ การให้อาหาร และการคัดขนาดได้ง่ายกว่า
ระบบกระชัง: ใช้ตาข่ายสองชั้นขนาดตา 3 เซนติเมตร เพื่อป้องกันปลาชะโดจากภายนอกเข้ามากินปลาในกระชัง และป้องกันปลาทับทิมหลุดออกไป
ระบบออกซิเจน: มีท่อระบบออกซิเจนสำหรับช่วงหน้าแล้ง เพื่อปรับอุณหภูมิระหว่างน้ำชั้นบนกับชั้นล่างให้ใกล้เคียงกัน ทำให้ปลามีสุขภาพดี
ความหนาแน่นที่เหมาสม: ในกระชัง 5x5 เมตร จะมีปลาประมาณ 1,200 ตัว ส่วนกระชัง 4x4 เมตรจะมีประมาณ 800 ตัว ซึ่งไม่หนาแน่นเกินไปทำให้ปลามีพื้นที่เติบโตได้ดี
ปลาทับทิมไม่ใช่ปลาที่ยิ่งใหญ่ยิ่งราคาดี ซึ่งต่างจากปลาบึกหรือปลาคัง เนื่องจากปลาทับทิมส่วนใหญ่ใช้เป็นปลาจานสำหรับโต๊ะจีน หากปลาขนาดใหญ่เกินขนาดจานจะขายได้ยาก
ส่วนผสมในอาหาร:
สูตรพิเศษ - จุลินทรีย์ช่วยย่อย:
การเคลือบด้วยไคโตซาน:
ความถี่ในการให้อาหาร: วันละ 2 รอบ คือเช้าและเย็น โดยในกระชังหนึ่งใช้อาหารวันละประมาณ 20 กิโลกรัม
ปลาทับทิมจากฟาร์มมีเนื้อแน่น หวาน ไม่คาว เหมาะกับการทำเมนูหลากหลาย:
1. ปลาทับทิมเผา
2. ปลาทับทิมทอด
3. ปลาทับทิมราดพริก
เมื่อปลาทับทิมโตเกินขนาดจนขายได้ราคาต่ำ เจ้าของฟาร์มจึงเกิดไอเดียทำบ่อตกปลา เพื่อระบายปลาตัวใหญ่ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2024 เมื่อเกิดภาวะปลาล้นตลาด
ข้อดีของบ่อตกปลาทับทิม:
ฟาร์มแห่งนี้ดูแลโดยพี่สงค์ที่เคยเป็นพนักงานประจำมาก่อน เมื่อชีวิตขัดสนชักหน้าไม่ถึงหลัง จึงตัดสินใจกลับบ้านมาเลี้ยงปลาทับทิม ปัจจุบันชีวิตดีขึ้นมากและมีความสุขกับการทำงาน โดยมีลูกชายอย่างน้องบอลที่จบรัฐศาสตร์แต่เลือกกลับมาช่วยพ่อเลี้ยงปลาแทนที่จะไปรับราชการ น้องบอลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดูแลบ่อตกปลา ขณะที่พ่อดูแลกระชังกลางเขื่อน ทั้งสองคนทำงานเป็นทีมโดยมีแม่เป็นฝ่ายทำอาหารอร่อยๆ ให้ลูกค้าที่มาตกปลา การเลี้ยงปลาทับทิมสำหรับครอบครัวนี้ไม่ใช่แค่การทำมาหากิน แต่เป็นการบำรุงจิตใจ สร้างความเพลิดเพลินในการดูแลชีวิต และเป็นมรดกที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
ปลาทับทิมเป็นปลาน้ำจืดคุณภาพที่มีตลาดรองรับดีและมีราคาที่เหมาะสม การเลี้ยงในกระชังกลางอ่างเก็บน้ำช่วยให้ได้ปลาที่มีคุณภาพดี สะอาด ปลอดภัย ไม่มีกลิ่นคาว และมีเนื้อที่อร่อย เหมาะสำหรับทั้งผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้นเลี้ยงปลา และผู้บริโภคที่ต้องการปลาคุณภาพดี
ติดตามชมรายการมหาอำนาจบ้านนา วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2568 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
ปลาทับทิมเป็นปลาน้ำจืดที่ได้รับความนิยมในการบริโภคอย่างมากในประเทศไทย ด้วยเนื้อที่นุ่ม หวาน และไม่มีกลิ่นคาว ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคทั่วไป วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับการเลี้ยงปลาทับทิมแบบมืออาชีพจากฟาร์มกลางเขื่อนที่จังหวัดระยอง ที่มีการเลี้ยงอย่างถูกหลักอนามัยและใส่ใจในทุกขั้นตอน
การเลี้ยงปลาทับทิมที่อ่างเก็บน้ำมีความพิเศษตรงที่เลี้ยงในรูปแบบกระชังกลางเขื่อน โดยมีกระชังปลาอยู่ประมาณ 400 - 450 กระชัง ซึ่งได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากกรมชลประทาน และมีกรมประมงเป็นผู้ดูแลกำกับ
การเลือกเลี้ยงกลางเขื่อนมีเหตุผลสำคัญคือ สภาพแวดล้อมที่ดีกว่า หากเลี้ยงชายฝั่ง น้ำฝนที่ไหลลงมาอาจนำพาสารเคมีจากการทำการเกษตร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปลาได้โดยตรง แต่กลางเขื่อนจะปลอดภัยกว่า ทำให้ได้ปลาทับทิมที่มีคุณภาพดีและปลอดภัยต่อผู้บริโภค
นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดจำนวนกระชังที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อคุณภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ โดยมีสูตรคำนวณที่ชัดเจนว่าอ่างขนาดนี้สามารถรองรับกระชังได้เท่าไหร่
1. ไม่มีกลิ่นดิน - หากเลี้ยงบนดินปลาจะชอบกินดิน ทำให้ส่วนท้องมีกลิ่น แต่การเลี้ยงในกระชังจะไม่มีปัญหานี้ ทำให้เนื้อปลาไม่มีกลิ่นคาวและมีรสชาติดีกว่า
2. สีของปลาสวยสด - น้ำในอ่างเก็บน้ำใสและมีคุณภาพดี ทำให้ปลาทับทิมมีสีสวยสด ไม่ซีดเหมือนการเลี้ยงในน้ำขุ่น
3. ตัวปลาอ้วนและเนื้อแน่น - ปลาที่เลี้ยงในกระชังจะกินอาหารได้เยอะกว่าปลาในบ่อ ทำให้ตัวอ้วนและเนื้อแน่นกว่า
4. การจัดการที่ดีกว่า - สามารถควบคุมคุณภาพน้ำ การให้อาหาร และการคัดขนาดได้ง่ายกว่า
ระบบกระชัง: ใช้ตาข่ายสองชั้นขนาดตา 3 เซนติเมตร เพื่อป้องกันปลาชะโดจากภายนอกเข้ามากินปลาในกระชัง และป้องกันปลาทับทิมหลุดออกไป
ระบบออกซิเจน: มีท่อระบบออกซิเจนสำหรับช่วงหน้าแล้ง เพื่อปรับอุณหภูมิระหว่างน้ำชั้นบนกับชั้นล่างให้ใกล้เคียงกัน ทำให้ปลามีสุขภาพดี
ความหนาแน่นที่เหมาสม: ในกระชัง 5x5 เมตร จะมีปลาประมาณ 1,200 ตัว ส่วนกระชัง 4x4 เมตรจะมีประมาณ 800 ตัว ซึ่งไม่หนาแน่นเกินไปทำให้ปลามีพื้นที่เติบโตได้ดี
ปลาทับทิมไม่ใช่ปลาที่ยิ่งใหญ่ยิ่งราคาดี ซึ่งต่างจากปลาบึกหรือปลาคัง เนื่องจากปลาทับทิมส่วนใหญ่ใช้เป็นปลาจานสำหรับโต๊ะจีน หากปลาขนาดใหญ่เกินขนาดจานจะขายได้ยาก
ส่วนผสมในอาหาร:
สูตรพิเศษ - จุลินทรีย์ช่วยย่อย:
การเคลือบด้วยไคโตซาน:
ความถี่ในการให้อาหาร: วันละ 2 รอบ คือเช้าและเย็น โดยในกระชังหนึ่งใช้อาหารวันละประมาณ 20 กิโลกรัม
ปลาทับทิมจากฟาร์มมีเนื้อแน่น หวาน ไม่คาว เหมาะกับการทำเมนูหลากหลาย:
1. ปลาทับทิมเผา
2. ปลาทับทิมทอด
3. ปลาทับทิมราดพริก
เมื่อปลาทับทิมโตเกินขนาดจนขายได้ราคาต่ำ เจ้าของฟาร์มจึงเกิดไอเดียทำบ่อตกปลา เพื่อระบายปลาตัวใหญ่ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2024 เมื่อเกิดภาวะปลาล้นตลาด
ข้อดีของบ่อตกปลาทับทิม:
ฟาร์มแห่งนี้ดูแลโดยพี่สงค์ที่เคยเป็นพนักงานประจำมาก่อน เมื่อชีวิตขัดสนชักหน้าไม่ถึงหลัง จึงตัดสินใจกลับบ้านมาเลี้ยงปลาทับทิม ปัจจุบันชีวิตดีขึ้นมากและมีความสุขกับการทำงาน โดยมีลูกชายอย่างน้องบอลที่จบรัฐศาสตร์แต่เลือกกลับมาช่วยพ่อเลี้ยงปลาแทนที่จะไปรับราชการ น้องบอลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดูแลบ่อตกปลา ขณะที่พ่อดูแลกระชังกลางเขื่อน ทั้งสองคนทำงานเป็นทีมโดยมีแม่เป็นฝ่ายทำอาหารอร่อยๆ ให้ลูกค้าที่มาตกปลา การเลี้ยงปลาทับทิมสำหรับครอบครัวนี้ไม่ใช่แค่การทำมาหากิน แต่เป็นการบำรุงจิตใจ สร้างความเพลิดเพลินในการดูแลชีวิต และเป็นมรดกที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
ปลาทับทิมเป็นปลาน้ำจืดคุณภาพที่มีตลาดรองรับดีและมีราคาที่เหมาะสม การเลี้ยงในกระชังกลางอ่างเก็บน้ำช่วยให้ได้ปลาที่มีคุณภาพดี สะอาด ปลอดภัย ไม่มีกลิ่นคาว และมีเนื้อที่อร่อย เหมาะสำหรับทั้งผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้นเลี้ยงปลา และผู้บริโภคที่ต้องการปลาคุณภาพดี
ติดตามชมรายการมหาอำนาจบ้านนา วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2568 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส
แท็กที่เกี่ยวข้อง: