ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ยอดมะม่วงหิมพานต์ ผักเหนาะอร่อยเหาะจังฮู้

ออกอากาศ21 ธ.ค. 68

ยอดมะม่วงหิมพานต์ สุดยอดผักพื้นบ้านที่ร้านขนมจีนต้องมี

ยอดมะม่วงหิมพานต์ นับเป็นผักพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นที่นิยมในภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร้านขนมจีนทุกร้านจะต้องมียอดมะม่วงหิมพานต์เป็นผักคู่เคียงที่ขาดไม่ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการให้กับมื้ออาหาร

ยอดมะม่วงหิมพานต์คือพืชอะไร

เป็นยอดอ่อนที่ได้จากต้นมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งเป็นต้นไม้ชนิดเดียวกับที่ให้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ที่เรานำมาทานกันแบบกรอบๆ อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ภาคใต้นิยมปลูกเพื่อเก็บยอดอ่อนมากกว่าการเก็บเมล็ด เพราะยอดอ่อนเหล่านี้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

ลักษณะเด่นของยอดมะม่วงหิมพานต์คือใบที่อ่อนๆ มีรสชาติเปรี้ยวเปรี้ยวและฝาด ซึ่งเป็นลักษณะเด่นที่ทำให้เหมาะกับการทานคู่กับขนมจีนเป็นอย่างยิ่ง ต้นมะม่วงหิมพานต์สามารถใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่ยอดอ่อน ลูก และเมล็ด

ประเภทของยอดมะม่วงหิมพานต์ที่ควรรู้จัก

ยอดมะม่วงหิมพานต์แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ตามสีของใบอ่อน ได้แก่

ยอดมะม่วงหิมพานต์สีขาว

  • มีใบกว้างและแหลม
  • เมื่อออกลูกจะเป็นสีขาวเหลืองๆ
  • เวลาลูกสุกจะมีสีส้มๆ
  • รสชาติฝาดน้อยกว่าชนิดสีแดง

ยอดมะม่วงหิมพานต์สีแดง

  • มีใบมนและเล็กกว่าชนิดสีขาว
  • เมื่อออกลูกจะเป็นสีแดงส้มๆ
  • รสชาติฝาดมากกว่าชนิดสีขาว
  • มีกลิ่นมะม่วงนิดหน่อย

สรรพคุณของยอดมะม่วงหิมพานต์ต่อสุขภาพ

ยอดมะม่วงหิมพานต์ไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อยเท่านั้น แต่ยังมีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย ได้แก่

  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
  • มีเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ
  • ช่วยชะลอความแก่ เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม ต้องระวังยางของยอดมะม่วงหิมพานต์ที่จะออกจากยอดตรงรอยที่เราตัด เพราะยางนี้อาจทำให้คันได้ โดยเฉพาะในคนที่แพ้ ดังนั้นควรสวมถุงมือขณะเก็บหรือจัดการกับยอดมะม่วงหิมพานต์

การใช้ประโยชน์จากยอดมะม่วงหิมพานต์ในชีวิตประจำวัน

ยอดมะม่วงหิมพานต์เป็นผักที่นิยมใช้ในการทำอาหารหลากหลายประเภท โดยเฉพาะ

ขนมจีนน้ำยา ยอดมะม่วงหิมพานต์เป็นผักคู่เคียงที่ขาดไม่ได้กับขนมจีนน้ำยา เมื่อทานสดๆ จะรู้สึกถึงความฝาดและเปรี้ยว แต่พอเอามาทานคู่กับน้ำยาขนมจีนที่เผ็ดร้อน ความฝาดจะหายไป และกลับกลายเป็นช่วยส่งเสริมรสชาติซึ่งกันและกัน ทำให้มีความมันมันและอร่อยขึ้น

แกงเผ็ด นอกจากขนมจีนแล้ว ยอดมะม่วงหิมพานต์ยังสามารถนำไปใส่ในแกงเผ็ดได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสที่น่าสนใจให้กับอาหาร

วิธีการเก็บยอดมะม่วงหิมพานต์อย่างถูกต้อง

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

  • กรรไกร
  • ตะกร้าหรือถุง
  • ถุงมือ (สำหรับป้องกันยางที่อาจทำให้คัน)

วิธีการเลือกเก็บ

  1. เลือกยอดที่อ่อนๆ
  2. ตัดยอดให้ยาวพอสมควร (ประมาณ 15-20 เซนติเมตร)
  3. ตัดแต่งใบที่ไม่สวยออก
  4. มัดเป็นกำๆ โดยกำละ 10 บาท (หรือประมาณ 20-30 กรัม)

เวลาที่เหมาะสมในการเก็บ

  • เก็บตอนเช้าๆ อย่าเกิน 09.00 น.
  • ไม่ควรเก็บตอนแดดส่อง เพราะใบจะเหี่ยวและไม่น่ากิน
  • หลังจากเก็บครั้งหนึ่งแล้ว ประมาณ 1 อาทิตย์ยอดใหม่ก็จะสามารถเก็บได้อีกครั้ง

การปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์เพื่อเก็บยอดอ่อน

ยอดมะม่วงหิมพานต์สามารถปลูกได้ไม่ยาก และเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจทำเกษตรอินทรีย์หรือปลูกผักสวนครัว

การเตรียมต้นกล้า

  • เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ได้จากการเก็บจากต้นที่ปล่อยให้ออกลูก
  • นำเมล็ดมาเพาะประมาณ 3-4 เดือน จะได้ต้นกล้าสูงประมาณ 50 เซนติเมตร

วิธีการปลูก

  1. ขุดหลุมลึกและกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร
  2. ใส่ขี้วัวผสมกับดินคลุกให้เข้ากัน
  3. วางต้นกล้าลงในหลุม
  4. กลบดินให้มิด
  5. รดน้ำให้ชุ่มทันที

การรดน้ำและการดูแลเบื้องต้น

  • รดน้ำทุกวันวันละครั้งจนต้นตั้งหลัก
  • หลังจากต้นตั้งหลักแล้ว รดน้ำทุก 3-4 วันครั้ง
  • ใช้เวลาประมาณ 1 ปี จนกว่าต้นจะโตพอเก็บยอดได้

การตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้ต้นมะม่วงหิมพานต์มียอดให้เก็บได้ตลอดทั้งปี ต้องมีการตัดแต่งกิ่งเป็นประจำ เมื่อต้นโตขึ้นจะมีการแตกกิ่งก้านสาขา แต่เนื่องจากปลูกเพื่อเอายอด จึงต้องตัดแต่งให้ต้นมีขนาดเตี้ยและมียอดใหม่แตกออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ใต้สายไฟฟ้าแรงสูง จะปลูกได้เฉพาะไม้ต้นเตี้ยๆ เท่านั้น

การดูแลรักษาต้นมะม่วงหิมพานต์ให้แข็งแรง

ยอดมะม่วงหิมพานต์จะมีคุณภาพดีและมีปริมาณมาก หากต้นได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง

การให้น้ำ

  • รดตอนเช้าวันละครั้งในช่วงหน้าแล้ง
  • ช่วงฤดูฝนไม่ต้องรดเพราะมะม่วงหิมพานต์เป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมาก

การบำรุงต้นมะม่วงหิมพานต์ด้วยน้ำหมักซาวข้าว

น้ำหมักซาวข้าวเป็นปุ๋ยชีวภาพที่ช่วยให้ยอดมะม่วงหิมพานต์เขียวสวยและกินอร่อย

ส่วนผสมของน้ำหมักซาวข้าว:

  • น้ำซาวข้าว 1 ลิตร
  • น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ (เป็นอาหารของจุลินทรีย์)
  • จุลินทรีย์จากนมเปรี้ยว 1 ขวด
  • ผงชูรส ½ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. คนส่วนผสมทั้งหมดให้ละลาย
  2. เทใส่ขวดและปิดฝาไม่ต้องแน่น
  3. วางไว้ในที่ร่มประมาณ 1 อาทิตย์

วิธีใช้:

  • น้ำหมักซาวข้าว 50-100 มิลลิลิตร ผสมกับน้ำเปล่า 20 ลิตร
  • ฉีดหรือรดทุก 5-7 วัน
  • ช่วยให้ใบสีเขียว ดินร่วนซุย และช่วยในการย่อยสลายของจุลินทรีย์

ผักยอดอ่อนอื่นๆ ที่ปลูกคู่กับยอดมะม่วงหิมพานต์

นอกจากยอดมะม่วงหิมพานต์แล้ว ยังมีผักยอดอ่อนอื่นๆ ที่เป็นที่นิยมในพื้นที่ภาคใต้เช่นกัน

ยอดชะอม

  • ปลูกได้ครั้งเดียวเก็บได้นาน
  • ดูแลง่าย เหมือนยอดมะม่วงหิมพานต์
  • ปลูกหนึ่งครั้งอยู่ได้นาน

ยอดกระเจี๊ยบ

  • มาจากต้นกระเจี๊ยบแดงที่มีลูกสีแดง
  • นิยมเอายอดไปแกงส้ม แกง หรือต้มกับกระดูกหมู
  • มีรสเปรี้ยวๆ ใบนิ่มละลายในปาก

ยอดจิก

  • เป็นไม้ป่าทั่วไป มีดอกห้อยสวย
  • ยอดอ่อนสามารถนำมากินกับขนมจีนได้
  • รสชาติฝาดและขมเล็กน้อย

ยอดมะกอก

  • ภาคอีสานนิยมใส่ส้มตำ
  • ภาคใต้นิยมกินกับขนมจีน
  • มีรสเปรี้ยวและฝาด

สรุปยอดมะม่วงหิมพานต์ สุดยอดผักพื้นบ้าน

ยอดมะม่วงหิมพานต์เป็นผักพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์และคุณค่าทางโภชนาการสูง เหมาะสำหรับการปลูกเพื่อบริโภคเองหรือจำหน่าย การดูแลไม่ยุ่งยาก ทนทานต่อโรคและแมลง และที่สำคัญคือสามารถปลูกแบบปลอดสารพิษได้ ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและต้องการอาหารปลอดภัย

การปลูกยอดมะม่วงหิมพานต์ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างรายได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและผลิตอาหารที่ปลอดภัยให้กับคนในชุมชนอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจปลูกยอดมะม่วงหิมพานต์ เริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยการหาเมล็ดมาเพาะ และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ได้แนะนำไว้ในบทความนี้

ยอดมะม่วงหิมพานต์ สุดยอดผักพื้นบ้านที่ร้านขนมจีนต้องมี

ยอดมะม่วงหิมพานต์ นับเป็นผักพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นที่นิยมในภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร้านขนมจีนทุกร้านจะต้องมียอดมะม่วงหิมพานต์เป็นผักคู่เคียงที่ขาดไม่ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการให้กับมื้ออาหาร

ยอดมะม่วงหิมพานต์คือพืชอะไร

เป็นยอดอ่อนที่ได้จากต้นมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งเป็นต้นไม้ชนิดเดียวกับที่ให้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ที่เรานำมาทานกันแบบกรอบๆ อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ภาคใต้นิยมปลูกเพื่อเก็บยอดอ่อนมากกว่าการเก็บเมล็ด เพราะยอดอ่อนเหล่านี้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

ลักษณะเด่นของยอดมะม่วงหิมพานต์คือใบที่อ่อนๆ มีรสชาติเปรี้ยวเปรี้ยวและฝาด ซึ่งเป็นลักษณะเด่นที่ทำให้เหมาะกับการทานคู่กับขนมจีนเป็นอย่างยิ่ง ต้นมะม่วงหิมพานต์สามารถใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่ยอดอ่อน ลูก และเมล็ด

ประเภทของยอดมะม่วงหิมพานต์ที่ควรรู้จัก

ยอดมะม่วงหิมพานต์แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ตามสีของใบอ่อน ได้แก่

ยอดมะม่วงหิมพานต์สีขาว

  • มีใบกว้างและแหลม
  • เมื่อออกลูกจะเป็นสีขาวเหลืองๆ
  • เวลาลูกสุกจะมีสีส้มๆ
  • รสชาติฝาดน้อยกว่าชนิดสีแดง

ยอดมะม่วงหิมพานต์สีแดง

  • มีใบมนและเล็กกว่าชนิดสีขาว
  • เมื่อออกลูกจะเป็นสีแดงส้มๆ
  • รสชาติฝาดมากกว่าชนิดสีขาว
  • มีกลิ่นมะม่วงนิดหน่อย

สรรพคุณของยอดมะม่วงหิมพานต์ต่อสุขภาพ

ยอดมะม่วงหิมพานต์ไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อยเท่านั้น แต่ยังมีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย ได้แก่

  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
  • มีเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ
  • ช่วยชะลอความแก่ เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม ต้องระวังยางของยอดมะม่วงหิมพานต์ที่จะออกจากยอดตรงรอยที่เราตัด เพราะยางนี้อาจทำให้คันได้ โดยเฉพาะในคนที่แพ้ ดังนั้นควรสวมถุงมือขณะเก็บหรือจัดการกับยอดมะม่วงหิมพานต์

การใช้ประโยชน์จากยอดมะม่วงหิมพานต์ในชีวิตประจำวัน

ยอดมะม่วงหิมพานต์เป็นผักที่นิยมใช้ในการทำอาหารหลากหลายประเภท โดยเฉพาะ

ขนมจีนน้ำยา ยอดมะม่วงหิมพานต์เป็นผักคู่เคียงที่ขาดไม่ได้กับขนมจีนน้ำยา เมื่อทานสดๆ จะรู้สึกถึงความฝาดและเปรี้ยว แต่พอเอามาทานคู่กับน้ำยาขนมจีนที่เผ็ดร้อน ความฝาดจะหายไป และกลับกลายเป็นช่วยส่งเสริมรสชาติซึ่งกันและกัน ทำให้มีความมันมันและอร่อยขึ้น

แกงเผ็ด นอกจากขนมจีนแล้ว ยอดมะม่วงหิมพานต์ยังสามารถนำไปใส่ในแกงเผ็ดได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสที่น่าสนใจให้กับอาหาร

วิธีการเก็บยอดมะม่วงหิมพานต์อย่างถูกต้อง

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

  • กรรไกร
  • ตะกร้าหรือถุง
  • ถุงมือ (สำหรับป้องกันยางที่อาจทำให้คัน)

วิธีการเลือกเก็บ

  1. เลือกยอดที่อ่อนๆ
  2. ตัดยอดให้ยาวพอสมควร (ประมาณ 15-20 เซนติเมตร)
  3. ตัดแต่งใบที่ไม่สวยออก
  4. มัดเป็นกำๆ โดยกำละ 10 บาท (หรือประมาณ 20-30 กรัม)

เวลาที่เหมาะสมในการเก็บ

  • เก็บตอนเช้าๆ อย่าเกิน 09.00 น.
  • ไม่ควรเก็บตอนแดดส่อง เพราะใบจะเหี่ยวและไม่น่ากิน
  • หลังจากเก็บครั้งหนึ่งแล้ว ประมาณ 1 อาทิตย์ยอดใหม่ก็จะสามารถเก็บได้อีกครั้ง

การปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์เพื่อเก็บยอดอ่อน

ยอดมะม่วงหิมพานต์สามารถปลูกได้ไม่ยาก และเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจทำเกษตรอินทรีย์หรือปลูกผักสวนครัว

การเตรียมต้นกล้า

  • เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ได้จากการเก็บจากต้นที่ปล่อยให้ออกลูก
  • นำเมล็ดมาเพาะประมาณ 3-4 เดือน จะได้ต้นกล้าสูงประมาณ 50 เซนติเมตร

วิธีการปลูก

  1. ขุดหลุมลึกและกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร
  2. ใส่ขี้วัวผสมกับดินคลุกให้เข้ากัน
  3. วางต้นกล้าลงในหลุม
  4. กลบดินให้มิด
  5. รดน้ำให้ชุ่มทันที

การรดน้ำและการดูแลเบื้องต้น

  • รดน้ำทุกวันวันละครั้งจนต้นตั้งหลัก
  • หลังจากต้นตั้งหลักแล้ว รดน้ำทุก 3-4 วันครั้ง
  • ใช้เวลาประมาณ 1 ปี จนกว่าต้นจะโตพอเก็บยอดได้

การตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้ต้นมะม่วงหิมพานต์มียอดให้เก็บได้ตลอดทั้งปี ต้องมีการตัดแต่งกิ่งเป็นประจำ เมื่อต้นโตขึ้นจะมีการแตกกิ่งก้านสาขา แต่เนื่องจากปลูกเพื่อเอายอด จึงต้องตัดแต่งให้ต้นมีขนาดเตี้ยและมียอดใหม่แตกออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ใต้สายไฟฟ้าแรงสูง จะปลูกได้เฉพาะไม้ต้นเตี้ยๆ เท่านั้น

การดูแลรักษาต้นมะม่วงหิมพานต์ให้แข็งแรง

ยอดมะม่วงหิมพานต์จะมีคุณภาพดีและมีปริมาณมาก หากต้นได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง

การให้น้ำ

  • รดตอนเช้าวันละครั้งในช่วงหน้าแล้ง
  • ช่วงฤดูฝนไม่ต้องรดเพราะมะม่วงหิมพานต์เป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมาก

การบำรุงต้นมะม่วงหิมพานต์ด้วยน้ำหมักซาวข้าว

น้ำหมักซาวข้าวเป็นปุ๋ยชีวภาพที่ช่วยให้ยอดมะม่วงหิมพานต์เขียวสวยและกินอร่อย

ส่วนผสมของน้ำหมักซาวข้าว:

  • น้ำซาวข้าว 1 ลิตร
  • น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ (เป็นอาหารของจุลินทรีย์)
  • จุลินทรีย์จากนมเปรี้ยว 1 ขวด
  • ผงชูรส ½ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. คนส่วนผสมทั้งหมดให้ละลาย
  2. เทใส่ขวดและปิดฝาไม่ต้องแน่น
  3. วางไว้ในที่ร่มประมาณ 1 อาทิตย์

วิธีใช้:

  • น้ำหมักซาวข้าว 50-100 มิลลิลิตร ผสมกับน้ำเปล่า 20 ลิตร
  • ฉีดหรือรดทุก 5-7 วัน
  • ช่วยให้ใบสีเขียว ดินร่วนซุย และช่วยในการย่อยสลายของจุลินทรีย์

ผักยอดอ่อนอื่นๆ ที่ปลูกคู่กับยอดมะม่วงหิมพานต์

นอกจากยอดมะม่วงหิมพานต์แล้ว ยังมีผักยอดอ่อนอื่นๆ ที่เป็นที่นิยมในพื้นที่ภาคใต้เช่นกัน

ยอดชะอม

  • ปลูกได้ครั้งเดียวเก็บได้นาน
  • ดูแลง่าย เหมือนยอดมะม่วงหิมพานต์
  • ปลูกหนึ่งครั้งอยู่ได้นาน

ยอดกระเจี๊ยบ

  • มาจากต้นกระเจี๊ยบแดงที่มีลูกสีแดง
  • นิยมเอายอดไปแกงส้ม แกง หรือต้มกับกระดูกหมู
  • มีรสเปรี้ยวๆ ใบนิ่มละลายในปาก

ยอดจิก

  • เป็นไม้ป่าทั่วไป มีดอกห้อยสวย
  • ยอดอ่อนสามารถนำมากินกับขนมจีนได้
  • รสชาติฝาดและขมเล็กน้อย

ยอดมะกอก

  • ภาคอีสานนิยมใส่ส้มตำ
  • ภาคใต้นิยมกินกับขนมจีน
  • มีรสเปรี้ยวและฝาด

สรุปยอดมะม่วงหิมพานต์ สุดยอดผักพื้นบ้าน

ยอดมะม่วงหิมพานต์เป็นผักพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์และคุณค่าทางโภชนาการสูง เหมาะสำหรับการปลูกเพื่อบริโภคเองหรือจำหน่าย การดูแลไม่ยุ่งยาก ทนทานต่อโรคและแมลง และที่สำคัญคือสามารถปลูกแบบปลอดสารพิษได้ ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและต้องการอาหารปลอดภัย

การปลูกยอดมะม่วงหิมพานต์ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างรายได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและผลิตอาหารที่ปลอดภัยให้กับคนในชุมชนอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจปลูกยอดมะม่วงหิมพานต์ เริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยการหาเมล็ดมาเพาะ และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ได้แนะนำไว้ในบทความนี้

ละครดี ซีรีส์เด่น

ดูทั้งหมด

♫ ♫ Songs Popular ♫ ♫

ดูทั้งหมด

คลิปมาใหม่

คนดูเยอะ 👀

ดูทั้งหมด

เสน่ห์ประเทศไทย