ในยุคที่เกษตรกรจำนวนมากกำลังประสบปัญหาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น รายได้ที่ไม่แน่นอน และการพึ่งพาสารเคมี แนวคิด "เกษตรรวยเบ็ดเสร็จ" กลับมอบทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ นี่คือเรื่องราวของครอบครัวเกษตรกรที่มหาอำนาจบ้านนา จังหวัดชุมพร ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าการทำเกษตรแบบครบวงจร ผสมผสานความหลากหลายทางชีวภาพ สามารถสร้างความมั่งคั่งที่แท้จริงได้
เกษตรรวยเบ็ดเสร็จ หรือ "รวยเบ็ดเสร็จ 7 ชั่วโคตร" เป็นปรัชญาการทำเกษตรที่คิดค้นโดยคุณพ่อเคว็ด ซึ่งเชื่อว่า "ปลูกต้นไม้นี่แหละมั่งคั่งยั่งยืน รวยเบ็ดเสร็จเจ็ดชั่วโคตร" แนวคิดนี้ไม่ได้หมายถึงการรวยด้วยเงินทองเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงความร่ำรวยในทุกมิติ
คำว่า "เกษตรรวยเบ็ดเสร็จ"
การเดินทางสู่เกษตรรวยเบ็ดเสร็จของครอบครัวนี้เริ่มต้นจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 คุณพ่อเคว็ดซึ่งเคยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง รับจ้างทำงานทุกชนิด ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตหลังจากประสบกับความยากลำบากในการหาเลี้ยงชีพ
ด้วยพื้นที่มรดกเพียง 3 ไร่ คุณพ่อและคุณแม่เริ่มต้นจากการปลูกผัก จากนั้นจึงค่อย ๆ ขยายไปสู่การปลูกปาล์มน้ำมัน ไม้ตะเคียนทอง และไม้ยืนต้นอื่น ๆ ด้วยความเพียรพยายามและการเรียนรู้ตลอดเวลา พื้นที่ทั้งหมดจึงขยายเป็น 31 ไร่ในปัจจุบัน
จุดเด่นของเกษตรรวยเบ็ดเสร็จคือการไม่ทิ้งเวลาให้สูญเปล่า เมื่อปลูกปาล์มน้ำมันซึ่งใช้เวลา 25 ปีกว่าจะให้ผลผลิตสูงสุด ก็ปลูกไม้ยืนต้นแทรกระหว่างกลางของปาล์มไปพร้อมกันไม้ยืนต้นเหล่านี้รวมถึง:
เมื่อปาล์มหมดอายุต้องตัด ไม้ยืนต้นที่ปลูกไว้ก็เติบโตเป็นที่เรียบร้อย สามารถทำเฟอร์นิเจอร์ ทำบ้าน หรือขายได้ทันที โดยไม่ต้องเริ่มปลูกใหม่และรอเวลานานอีก
แนวคิดเกษตรรวยเบ็ดเสร็จเน้นการปลูกพืชหลากหลายชนิดให้คล้ายกับป่าธรรมชาติ ต้นไม้ที่เกะกะหรือไม่เติบโตดีก็ตัดออกเป็นฟืน แล้วปลูกพืชเล็ก ๆ แซมเข้าไป สร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์
หัวใจสำคัญของเกษตรรวยเบ็ดเสร็จคือการไม่พึ่งพาสารเคมี แต่ใช้ปุ๋ยชีวภาพและน้ำหมักจากธรรมชาติแทน
อีกหนึ่งสูตรเด็ดของเกษตรรวยเบ็ดเสร็จคือน้ำหมักขี้ควายที่ใช้เวลาหมักถึง 2 ปี สูตรประกอบด้วย:
เมื่อนำมาใช้ ให้เจือจางน้ำหมักขี้ควาย 4 ลิตร ใส่น้ำตาลทรายแดง แล้วนำไปฉีดพ่น ผลที่ได้คือ "เขียวทุกต้น สวยทุกใบ"
สิ่งที่ทำให้เกษตรรวยเบ็ดเสร็จมีความมั่นคง คือความหลากหลายของกิจกรรมและผลผลิต ประกอบด้วย
มีระบบอ่างปลาขนาดใหญ่สำหรับเพาะพันธุ์ปลาหลายชนิด:
ปลาเหล่านี้ได้รับการเลี้ยงด้วยสูตรอาหารปลากินอิ่มน้ำใส ที่ทำจาก:
ปั้นเป็นก้อนแล้วตากแดด 3-4 วัน โรยรำเพื่อให้ลอยน้ำ ช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงอย่างมาก
หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าสนใจของการทำเกษตรคือการแก้ปัญหาขยะเปลือกทุเรียนจากอำเภอหลังสวน ปัญหานี้เกิดจากการส่งออกทุเรียนที่ส่งเฉพาะเนื้อ ทิ้งเปลือกกองเป็นขยะมหาศาล พี่เมย์รับเปลือกทุเรียนฟรีมากกว่า 300 ลัง นำมาหมักด้วยน้ำหมักขี้ควายของคุณพ่อ ย่อยสลายภายใน 6 เดือน จากนั้นนำไปใส่โคนต้นไม้เป็นอินทรียวัตถุที่อุดมด้วยโพแทสเซียม ช่วยเร่งการออกดอกโดยไม่มีต้นทุนเลย
นอกจากรายได้จากผลผลิตทางการเกษตรแล้ว เกษตรรวยเบ็ดเสร็จยังสร้างรายได้จากการแปรรูป:
สิ่งที่ทำให้เกษตรรวยเบ็ดเสร็จแตกต่างจากการทำเกษตรแบบทั่วไป คือ:
เกษตรรวยเบ็ดเสร็จไม่ใช่เพียงแค่วิธีการทำเกษตร แต่คือวิถีชีวิตที่นำไปสู่ความมั่งคั่งอย่างแท้จริง ไม่ว่าคุณจะมีพื้นที่มากหรือน้อย สามารถเริ่มต้นได้ด้วยหลักการง่ายๆ:
จากประสบการณ์ 16-17 ปีของครอบครัวนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่าเกษตรรวยเบ็ดเสร็จสามารถสร้างความยั่งยืนให้กับชีวิต ครอบครัว และสิ่งแวดล้อมได้จริง ดังคำกล่าวที่ว่า "อาจเป็นแปดเก้าสิบชั่วโคตรเลยก็ได้" เพราะความร่ำรวยที่แท้จริงนั้นไม่สามารถวัดด้วยตัวเลขได้
ติดตามชมรายการมหาอำนาจบ้านนา วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
ในยุคที่เกษตรกรจำนวนมากกำลังประสบปัญหาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น รายได้ที่ไม่แน่นอน และการพึ่งพาสารเคมี แนวคิด "เกษตรรวยเบ็ดเสร็จ" กลับมอบทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ นี่คือเรื่องราวของครอบครัวเกษตรกรที่มหาอำนาจบ้านนา จังหวัดชุมพร ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าการทำเกษตรแบบครบวงจร ผสมผสานความหลากหลายทางชีวภาพ สามารถสร้างความมั่งคั่งที่แท้จริงได้
เกษตรรวยเบ็ดเสร็จ หรือ "รวยเบ็ดเสร็จ 7 ชั่วโคตร" เป็นปรัชญาการทำเกษตรที่คิดค้นโดยคุณพ่อเคว็ด ซึ่งเชื่อว่า "ปลูกต้นไม้นี่แหละมั่งคั่งยั่งยืน รวยเบ็ดเสร็จเจ็ดชั่วโคตร" แนวคิดนี้ไม่ได้หมายถึงการรวยด้วยเงินทองเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงความร่ำรวยในทุกมิติ
คำว่า "เกษตรรวยเบ็ดเสร็จ"
การเดินทางสู่เกษตรรวยเบ็ดเสร็จของครอบครัวนี้เริ่มต้นจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 คุณพ่อเคว็ดซึ่งเคยเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง รับจ้างทำงานทุกชนิด ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตหลังจากประสบกับความยากลำบากในการหาเลี้ยงชีพ
ด้วยพื้นที่มรดกเพียง 3 ไร่ คุณพ่อและคุณแม่เริ่มต้นจากการปลูกผัก จากนั้นจึงค่อย ๆ ขยายไปสู่การปลูกปาล์มน้ำมัน ไม้ตะเคียนทอง และไม้ยืนต้นอื่น ๆ ด้วยความเพียรพยายามและการเรียนรู้ตลอดเวลา พื้นที่ทั้งหมดจึงขยายเป็น 31 ไร่ในปัจจุบัน
จุดเด่นของเกษตรรวยเบ็ดเสร็จคือการไม่ทิ้งเวลาให้สูญเปล่า เมื่อปลูกปาล์มน้ำมันซึ่งใช้เวลา 25 ปีกว่าจะให้ผลผลิตสูงสุด ก็ปลูกไม้ยืนต้นแทรกระหว่างกลางของปาล์มไปพร้อมกันไม้ยืนต้นเหล่านี้รวมถึง:
เมื่อปาล์มหมดอายุต้องตัด ไม้ยืนต้นที่ปลูกไว้ก็เติบโตเป็นที่เรียบร้อย สามารถทำเฟอร์นิเจอร์ ทำบ้าน หรือขายได้ทันที โดยไม่ต้องเริ่มปลูกใหม่และรอเวลานานอีก
แนวคิดเกษตรรวยเบ็ดเสร็จเน้นการปลูกพืชหลากหลายชนิดให้คล้ายกับป่าธรรมชาติ ต้นไม้ที่เกะกะหรือไม่เติบโตดีก็ตัดออกเป็นฟืน แล้วปลูกพืชเล็ก ๆ แซมเข้าไป สร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์
หัวใจสำคัญของเกษตรรวยเบ็ดเสร็จคือการไม่พึ่งพาสารเคมี แต่ใช้ปุ๋ยชีวภาพและน้ำหมักจากธรรมชาติแทน
อีกหนึ่งสูตรเด็ดของเกษตรรวยเบ็ดเสร็จคือน้ำหมักขี้ควายที่ใช้เวลาหมักถึง 2 ปี สูตรประกอบด้วย:
เมื่อนำมาใช้ ให้เจือจางน้ำหมักขี้ควาย 4 ลิตร ใส่น้ำตาลทรายแดง แล้วนำไปฉีดพ่น ผลที่ได้คือ "เขียวทุกต้น สวยทุกใบ"
สิ่งที่ทำให้เกษตรรวยเบ็ดเสร็จมีความมั่นคง คือความหลากหลายของกิจกรรมและผลผลิต ประกอบด้วย
มีระบบอ่างปลาขนาดใหญ่สำหรับเพาะพันธุ์ปลาหลายชนิด:
ปลาเหล่านี้ได้รับการเลี้ยงด้วยสูตรอาหารปลากินอิ่มน้ำใส ที่ทำจาก:
ปั้นเป็นก้อนแล้วตากแดด 3-4 วัน โรยรำเพื่อให้ลอยน้ำ ช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงอย่างมาก
หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าสนใจของการทำเกษตรคือการแก้ปัญหาขยะเปลือกทุเรียนจากอำเภอหลังสวน ปัญหานี้เกิดจากการส่งออกทุเรียนที่ส่งเฉพาะเนื้อ ทิ้งเปลือกกองเป็นขยะมหาศาล พี่เมย์รับเปลือกทุเรียนฟรีมากกว่า 300 ลัง นำมาหมักด้วยน้ำหมักขี้ควายของคุณพ่อ ย่อยสลายภายใน 6 เดือน จากนั้นนำไปใส่โคนต้นไม้เป็นอินทรียวัตถุที่อุดมด้วยโพแทสเซียม ช่วยเร่งการออกดอกโดยไม่มีต้นทุนเลย
นอกจากรายได้จากผลผลิตทางการเกษตรแล้ว เกษตรรวยเบ็ดเสร็จยังสร้างรายได้จากการแปรรูป:
สิ่งที่ทำให้เกษตรรวยเบ็ดเสร็จแตกต่างจากการทำเกษตรแบบทั่วไป คือ:
เกษตรรวยเบ็ดเสร็จไม่ใช่เพียงแค่วิธีการทำเกษตร แต่คือวิถีชีวิตที่นำไปสู่ความมั่งคั่งอย่างแท้จริง ไม่ว่าคุณจะมีพื้นที่มากหรือน้อย สามารถเริ่มต้นได้ด้วยหลักการง่ายๆ:
จากประสบการณ์ 16-17 ปีของครอบครัวนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่าเกษตรรวยเบ็ดเสร็จสามารถสร้างความยั่งยืนให้กับชีวิต ครอบครัว และสิ่งแวดล้อมได้จริง ดังคำกล่าวที่ว่า "อาจเป็นแปดเก้าสิบชั่วโคตรเลยก็ได้" เพราะความร่ำรวยที่แท้จริงนั้นไม่สามารถวัดด้วยตัวเลขได้
ติดตามชมรายการมหาอำนาจบ้านนา วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส
แท็กที่เกี่ยวข้อง: