ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกของมะพูด ผลไม้โบราณที่หลายคนอาจไม่คุ้นเคย แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราว ความเชื่อ และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับผลไม้โบราณชนิดนี้อย่างเจาะลึก ตั้งแต่แหล่งกำเนิด ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ สรรพคุณทางยา ไปจนถึงเมนูอาหารที่สร้างสรรค์จากผลไม้ชนิดนี้ พร้อมความเชื่อโบราณที่จะทำให้คุณทึ่ง
มะพูด เป็นไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสันนิษฐานว่าอาจเข้ามาในประเทศไทยพร้อมกับชาวมากาซาหรือแขกมักกะสันที่อพยพหนีภัยสงครามในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นต้นไม้ที่โดดเด่นด้วยทรงพุ่มสวยงาม ใบดกเขียวเป็นมัน โดยทั่วไปลำต้นจะมีความสูงประมาณ 15 เมตร เรือนยอดเป็นรูปเจดีย์ เปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลเข้มและแตกเป็นร่องตื้นๆ ตามความยาวของลำต้น
ใบของมันเป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามกัน แผ่นใบเป็นรูปขอบขนาน ปลายเรียวแหลม และขอบใบเรียบ เนื้อใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ดอกมีสีขาวหรือเหลืองอมเขียวอ่อน ออกเป็นช่อสั้นๆ ตามซอกใบและปลายกิ่ง ส่วนผลนั้นมีรูปร่างที่หลากหลายแตกต่างกันไปในแต่ละต้น อย่างในสวนของคุณน้าดำรงที่ตำบลบึงบอน อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี สามารถพบผลได้ถึง 6 แบบ
หนึ่งในความน่าสนใจของมะพูดคือความหลากหลายของรสชาติในแต่ละต้น แม้จะเป็นผลไม้ชนิดเดียวกันก็ตาม แต่รสชาติอาจแตกต่างกันได้อย่างสิ้นเชิง คุณน้าดำรงเล่าว่าสามารถแบ่งรสชาติของผมไม้โบราณชนิดนี้ออกได้เป็น 3 รสหลัก ได้แก่
ความพิเศษคือ รสชาติของแต่ละต้นจะคงที่ในทุกช่วงการเจริญเติบโต ไม่ว่าจะเป็นระยะดิบแก่ ระยะห่าม หรือระยะสุก ต้นไหนเปรี้ยวก็จะเปรี้ยวตลอด ต้นไหนหวานก็จะหวานตลอด ซึ่งความหลากหลายนี้ทำให้สามารถนำไปสร้างสรรค์เมนูอาหารได้หลากหลาย
มะพูดเป็นไม้ที่ดูแลไม่ยาก สามารถเจริญเติบโตได้ดีในป่าดิบชื้นหรือพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ โดยพบได้ในป่าเบญจพรรณทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ของประเทศไทย ตามรายงานขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติเมื่อปี พ.ศ. 2544 จัดให้ต้นไม้ชนิดนี้อยู่ในกลุ่มพืชที่สามารถพัฒนาเป็นต้นไม้สำหรับสวนในบ้านได้ เนื่องจากมีประโยชน์หลายด้าน
คุณน้าดำรงใช้พื้นที่ประมาณ 9 ไร่ในการปลูกพืชหลากหลายชนิดเพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์ โดยมีต้นมะพูดในสวนกว่า 60 ต้น ซึ่งปลูกมาแล้วกว่า 15 ปี เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รู้จักผลไม้ชนิดนี้ ต้นไม้ชนิดนี้สามารถออกผลได้ตลอดทั้งปี ทำให้มีผลผลิตให้เก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ โดยที่ยังไม่ทันจะหมดลูกชุดเก่า ดอกช่อชุดใหม่ก็เริ่มผลิออกมาแล้ว
ข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือ หากต้องการให้ผลผลิตเยอะๆ ควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงเต็มที่ และคอยดูแลรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ คุณสตังค์เล่าว่าเห็นต้นออกลูกเต็มต้นจนน่าตกใจ แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้ชนิดนี้
คนไทยโบราณมีความเชื่อสืบต่อกันมาว่า การปลูกมะพูดไว้ในบริเวณบ้านจะช่วยเสริมให้ลูกหลานเป็นคนช่างพูด ช่างเจรจา พูดจาไพเราะ และเป็นที่ชื่นชมของผู้คนทั่วไป และหากลูกหลานบ้านไหนไม่ยอมพูดหรือเป็นคนปากหนัก ผู้เฒ่าผู้แก่ก็จะนำผลสุกมาให้เด็กคนนั้นกิน เชื่อกันว่าเด็กก็จะกลับมาพูดเก่งได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
นอกจากนี้ ยังนิยมปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคลตามหลักฮวงจุ้ยอีกด้วย ความเชื่อเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันและคุณค่าที่คนไทยมีต่อต้นมะพูดมาอย่างยาวนาน
มะพูดไม่ได้มีดีแค่รสชาติและความเชื่อเท่านั้น แต่ยังมีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจอีกด้วย งานวิจัยสมัยใหม่พบว่า:
ในหนังสือ ประมวลสรรพคุณยาไทย ภาคสาม ยังกล่าวถึงประโยชน์ทางยาของมะพูดไว้ว่า เปลือกของมันมีรสฝาด สามารถนำมาใช้ชำระล้างบาดแผลได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภูมิปัญญาพื้นบ้านได้นำผลไม้โบราณชนิดนี้มาใช้รักษาโรคตั้งแต่โบราณกาลแล้ว
แม้ว่าร้อยละ 99 ของผู้คนจะนิยมรับประทานมะพูดเป็นผลไม้สด แต่คุณสตังค์และทีมงานก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มะพูดสามารถนำมาสร้างสรรค์เมนูอาหารได้อย่างหลากหลายและน่าทึ่ง
เมนูนี้เป็นการนำมะพูดทั้งสามรสชาติมารวมกันในครกเดียว โดยเลือกใช้มะพูดรสเปรี้ยวในระยะดิบแก่และระยะสุก ส่วนมะพูดรสอมเปรี้ยวอมหวานและรสหวานจะใช้ในระยะห่ามและระยะสุก ผสมผสานกับวัตถุดิบอื่นๆ เช่น ไหลบัว ปลาแห้งกรอบ กุ้งย่าง และเครื่องปรุงแบบไทยๆ ทำให้ได้ส้มตำที่มีรสชาติจัดจ้านแซ่บซี้ด
วิธีการปรุงเริ่มต้นจากการนำมะพูดมาหั่นเป็นเส้นเหมือนการทำส้มตำทั่วไป จากนั้นตำรวมกับพริก กระเทียม ถั่วฝักยาว และปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และกะปิ เพื่อเพิ่มความนัว ปิดท้ายด้วยการใส่ไหลบัว มะเขือเทศ ปลาป่น กุ้งย่าง และถั่วลิสงคั่ว เมนูนี้ให้รสชาติที่ซับซ้อน ทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ดร้อน เป็นการผสมผสานรสชาติจากมะพูดหลายสายพันธุ์และหลายระยะได้อย่างลงตัว
เมนูนี้เป็นการนำมะพูดไปดัดแปลงเป็นเมนูของหวานสไตล์อิตาเลียนอย่าง "กานิต้า" ซึ่งเป็นเกล็ดน้ำแข็งเนื้อละเอียดคล้ายไอศกรีมเชอร์เบทที่ไม่ผ่านการปั่น
ส่วนประกอบหลักของเมนูนี้คือ:
วิธีการเสิร์ฟคือ ตักแยมมะพูดลงในถ้วย ตามด้วยมะพูดลอยแก้ว และเกล็ดน้ำแข็งมะพูด ปิดท้ายด้วยการตกแต่งด้วยชิ้นมะพูดลอยแก้วและใบสะระแหน่ เมนูนี้ให้รสชาติที่สดชื่น หวานอมเปรี้ยว และหอมกลิ่นดอกมะลิ เป็นการยกระดับผลไม้ไทยที่ดู "เท่ๆ" เหมาะสำหรับร้านคาเฟ่สมัยใหม่
การทำน้ำมะพูดก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลไม้ชนิดนี้ มีสรรพคุณช่วยในการระบาย โดยทำจากมะพูดสุก 1 กิโลกรัม ต้มกับน้ำ 3 ลิตร เติมดอกเกลือและน้ำตาลทรายเล็กน้อย รสชาติที่ได้จะสดชื่น เหมาะกับการทำเป็นเครื่องดื่มในร้านคาเฟ่ ที่สำคัญยังเป็นวิธีแปรรูปที่ช่วยถนอมอาหารให้เก็บไว้รับประทานได้นานขึ้น
มะพูดคือผลไม้ที่สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินไทย และภูมิปัญญาของคนโบราณที่สืบทอดกันมา แม้จะเป็นผลไม้ที่หลายคนอาจลืมเลือนไปแล้ว แต่ในปัจจุบันก็มีการนำมาฟื้นฟูและสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและสัมผัสกับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของมัน ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยอนุรักษ์สายพันธุ์พืชพื้นบ้านแล้ว ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและเปิดโอกาสให้ผลไม้ไทยได้ไปไกลในระดับสากลอีกด้วย
"มะพูด" ผลไม้ไทยโบราณ ที่คนไทยในอดีตนิยมปลูกเป็นไม้มงคลในบริเวณบ้าน หรือตามสวนผลไม้ ใกล้ริมน้ำหรือพื้นที่ชุ่มชื้น ผลมีลักษณะเป็นทรงกลมหรือเป็นรูปไข่ ผิวเรียบและเป็นมันเงา ผลดิบสีเขียว มียางมาก เมื่อสุกจะเป็นสีเหลืองสดอมสีส้มหรือเหลืองผ่อง เนื้อในผลเป็นสีเหลือง มีทั้งชนิดหวาน ชนิดเปรี้ยว และชนิดเปรี้ยวอมหวาน คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานผลระยะสุก ส่วนผลดิบก็สามารถรับประทานได้เช่นเดียวกัน
ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน มะพูด วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม 2568 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
ภัตตาคารบ้านทุ่ง
มื้อสุดฟิน กินบนดอย
หอมชู
มะเขือเทศต้น
"ต้มยำกุ้ง" มรดกไทย มรดกโลก
มะนาวเพชรบุรี
หอยท้ายเภา
บอนกลัก
หยองดักปูดำ
หอยไม้ไผ่
ชมพู่มะเหมี่ยว
มะตูมไข่
ตำนานดิน
ชำมะเลียง
ข้าวโพดเทียนบ้านเกาะ
ตอนพิเศษ รสชาติที่หายไป ปีที่ 2
ลำพู
ผักโขมบ้าน
มะพร้าวไฟ
กล้วยงาช้าง
มะม่วงอกร่องเสม็ดงาม
ลูกตำลึง
ปลากะเตา
ส้มลม
กล้วยหอมทองเพชรบุรี
ปลานวลจันทร์ทะเล
เบื้องหลังกว่าจะมาเป็น ยกพลคนน้ำพริก
มะพูด
ภัตตาคารบ้านทุ่ง
มื้อสุดฟิน กินบนดอย
หอมชู
มะเขือเทศต้น
"ต้มยำกุ้ง" มรดกไทย มรดกโลก
มะนาวเพชรบุรี
หอยท้ายเภา
บอนกลัก
หยองดักปูดำ
หอยไม้ไผ่
ชมพู่มะเหมี่ยว
มะตูมไข่
ตำนานดิน
ชำมะเลียง
ข้าวโพดเทียนบ้านเกาะ
ตอนพิเศษ รสชาติที่หายไป ปีที่ 2
ลำพู
ผักโขมบ้าน
มะพร้าวไฟ
กล้วยงาช้าง
มะม่วงอกร่องเสม็ดงาม
ลูกตำลึง
ปลากะเตา
ส้มลม
กล้วยหอมทองเพชรบุรี
ปลานวลจันทร์ทะเล
เบื้องหลังกว่าจะมาเป็น ยกพลคนน้ำพริก
มะพูด