ตะขบยักษ์ ผลไม้พื้นบ้านที่มีต้นกำเนิดในเอเชียอาคเนย์ โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งเป็นพืชที่มีมานานตั้งแต่สมัยคุณปู่คุณย่า แต่เกือบจะสูญหายไปเพราะถูกโค่นทิ้งจำนวนมาก เนื่องจากเกษตรกรไม่เห็นคุณค่า
ตะขบยักษ์มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามภูมิภาค อาทิ:
ผลไม้ชนิดนี้มีลักษณะเด่นคือ ลูกมีขนาดใหญ่ สามารถโตได้เท่าลูกมะนาว และมีสีม่วงดำเมื่อสุกเต็มที่ ต่างจากตะขบบ้านทั่วไปที่มีลูกเล็กและสีแดง
ผลสด:
ใบสด:
ใบแห้ง:
เมล็ด:
เปลือกต้น:
นอกจากนี้ สารสีม่วง (แอนโทไซยานิน) ที่อยู่บนเปลือกผลยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
หลายคนที่ลองกินตะขบยักษ์ครั้งแรกอาจรู้สึกว่าฝาดติดลิ้น นั่นเป็นเพราะยังไม่รู้วิธีการกินที่ถูกต้อง
เมื่อกัดเข้าไปจะได้เนื้อสีเหลืองที่มีความหวานละมุน เนื้อมีความหนึบนุ่มคล้ายกับกินลูกพรุน ส่วนเม็ดข้างในค่อนข้างแข็งอาจต้องคายออก
นอกจากกินสดแล้ว ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็น ส้มตำตะขบยักษ์ ได้อีกด้วย โดยใช้เนื้อผลปอกเปลือกแล้วนำมาตำกับเครื่องส้มตำ จะได้รสชาติหวานละมุนผสมกับความจัดจ้านของส้มตำ
ตะขบยักษ์เป็นไม้ที่ดูแลง่าย เหมาะสำหรับคนที่อยากลองปลูกผลไม้หายาก สามารถปลูกได้ทั้งในแปลงใหญ่หรือปลูกในกระถาง
ดิน:
แสงแดด:
น้ำ:
การบำรุง:
เนื่องจากทรงพุ่มของตะขบยักษ์ค่อนข้างใหญ่ ควรเว้นระยะห่างระหว่างต้น 3 เมตร หรือหากไม่คุมขนาดทรงพุ่ม ควรเว้น 5-6 เมตร
ตัดกิ่งด้านล่างที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง ช่วยให้การส่งอาหารไปยังผลมีประสิทธิภาพ ทำให้ลูกดกและใหญ่ขึ้น
ตั้งแต่ออกดอกจนถึงเก็บผล ใช้เวลา 5 - 6 เดือน ช่วงระยะยเวลาที่ออกดอกคือ มีนาคม - เมษายน และช่วงเก็บเกี่ยวคือ เดือนกรกฎาคม - สิงหาคม
การขยายพันธุ์ตะขบยักษ์สามารถทำได้ง่ายด้วยวิธีการตอนกิ่ง ซึ่งไม่ซับซ้อนและให้ผลลัพธ์ที่ดี
แมลงวันทอง
คุณแจ็ค อดีตครูสอนศิลปะจากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ผู้จบทางด้านออกแบบโปรดักซ์ดีไซน์ ได้ตัดสินใจลาออกจากงานสอนหลังจากทำงานมา 5 ปี เพื่อกลับมาฟื้นฟูสวนที่ถูกทิ้งร้างมานานกว่า 30 ปี
แม้จะเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และความกังวลจากครอบครัว แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการเตรียมตัวที่ดี ทำให้สามารถประสบความสำเร็จได้ โดยมีการวางแผนสร้างรายได้ก่อนลาออก เพื่อสามารถซัพพอร์ตสวนได้อย่างน้อย 2-3 ปี
ตะขบยักษ์ คือผลไม้พื้นบ้านที่กำลังได้รับความสนใจอีกครั้ง ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ สรรพคุณที่หลากหลาย และความหายากที่สร้างมูลค่าทางการตลาด
ไม่ว่าจะปลูกเพื่อการค้าหรือบริโภคเอง ตะขบยักษ์ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรยุคใหม่ที่ต้องการสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มให้กับพื้นที่ของตนเอง
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้มาจากประสบการณ์จริงของเกษตรกรผู้ปลูกตะขบยักษ์ในจังหวัดพิษณุโลก ผู้สนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมและปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ของตนเอง
ติดตามชมรายการมหาอำนาจบ้านนา วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2568 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
ตะขบยักษ์ ผลไม้พื้นบ้านที่มีต้นกำเนิดในเอเชียอาคเนย์ โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งเป็นพืชที่มีมานานตั้งแต่สมัยคุณปู่คุณย่า แต่เกือบจะสูญหายไปเพราะถูกโค่นทิ้งจำนวนมาก เนื่องจากเกษตรกรไม่เห็นคุณค่า
ตะขบยักษ์มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามภูมิภาค อาทิ:
ผลไม้ชนิดนี้มีลักษณะเด่นคือ ลูกมีขนาดใหญ่ สามารถโตได้เท่าลูกมะนาว และมีสีม่วงดำเมื่อสุกเต็มที่ ต่างจากตะขบบ้านทั่วไปที่มีลูกเล็กและสีแดง
ผลสด:
ใบสด:
ใบแห้ง:
เมล็ด:
เปลือกต้น:
นอกจากนี้ สารสีม่วง (แอนโทไซยานิน) ที่อยู่บนเปลือกผลยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
หลายคนที่ลองกินตะขบยักษ์ครั้งแรกอาจรู้สึกว่าฝาดติดลิ้น นั่นเป็นเพราะยังไม่รู้วิธีการกินที่ถูกต้อง
เมื่อกัดเข้าไปจะได้เนื้อสีเหลืองที่มีความหวานละมุน เนื้อมีความหนึบนุ่มคล้ายกับกินลูกพรุน ส่วนเม็ดข้างในค่อนข้างแข็งอาจต้องคายออก
นอกจากกินสดแล้ว ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็น ส้มตำตะขบยักษ์ ได้อีกด้วย โดยใช้เนื้อผลปอกเปลือกแล้วนำมาตำกับเครื่องส้มตำ จะได้รสชาติหวานละมุนผสมกับความจัดจ้านของส้มตำ
ตะขบยักษ์เป็นไม้ที่ดูแลง่าย เหมาะสำหรับคนที่อยากลองปลูกผลไม้หายาก สามารถปลูกได้ทั้งในแปลงใหญ่หรือปลูกในกระถาง
ดิน:
แสงแดด:
น้ำ:
การบำรุง:
เนื่องจากทรงพุ่มของตะขบยักษ์ค่อนข้างใหญ่ ควรเว้นระยะห่างระหว่างต้น 3 เมตร หรือหากไม่คุมขนาดทรงพุ่ม ควรเว้น 5-6 เมตร
ตัดกิ่งด้านล่างที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง ช่วยให้การส่งอาหารไปยังผลมีประสิทธิภาพ ทำให้ลูกดกและใหญ่ขึ้น
ตั้งแต่ออกดอกจนถึงเก็บผล ใช้เวลา 5 - 6 เดือน ช่วงระยะยเวลาที่ออกดอกคือ มีนาคม - เมษายน และช่วงเก็บเกี่ยวคือ เดือนกรกฎาคม - สิงหาคม
การขยายพันธุ์ตะขบยักษ์สามารถทำได้ง่ายด้วยวิธีการตอนกิ่ง ซึ่งไม่ซับซ้อนและให้ผลลัพธ์ที่ดี
แมลงวันทอง
คุณแจ็ค อดีตครูสอนศิลปะจากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ผู้จบทางด้านออกแบบโปรดักซ์ดีไซน์ ได้ตัดสินใจลาออกจากงานสอนหลังจากทำงานมา 5 ปี เพื่อกลับมาฟื้นฟูสวนที่ถูกทิ้งร้างมานานกว่า 30 ปี
แม้จะเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และความกังวลจากครอบครัว แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการเตรียมตัวที่ดี ทำให้สามารถประสบความสำเร็จได้ โดยมีการวางแผนสร้างรายได้ก่อนลาออก เพื่อสามารถซัพพอร์ตสวนได้อย่างน้อย 2-3 ปี
ตะขบยักษ์ คือผลไม้พื้นบ้านที่กำลังได้รับความสนใจอีกครั้ง ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ สรรพคุณที่หลากหลาย และความหายากที่สร้างมูลค่าทางการตลาด
ไม่ว่าจะปลูกเพื่อการค้าหรือบริโภคเอง ตะขบยักษ์ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรยุคใหม่ที่ต้องการสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มให้กับพื้นที่ของตนเอง
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้มาจากประสบการณ์จริงของเกษตรกรผู้ปลูกตะขบยักษ์ในจังหวัดพิษณุโลก ผู้สนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมและปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ของตนเอง
ติดตามชมรายการมหาอำนาจบ้านนา วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2568 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส
แท็กที่เกี่ยวข้อง: