ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ลำไยเบี้ยวเขียว GI ลำพูน

ออกอากาศ14 ก.ย. 68

ลำไยเบี้ยวเขียว: ราชาแห่งลำไยลำพูนที่หอมหวานเป็นตำนาน

ลำไยเบี้ยวเขียวป่าเศร้า ลำไยพันธุ์พื้นเมืองที่ชาวลำพูนเรียกว่า "คิงออฟลำไย" เป็นลำไยสายพันธุ์เก่าแก่ที่ปลูกสืบทอดกันมาเป็นร้อยปี โดยเฉพาะที่หมู่บ้านป่าเส้า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ที่ได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ทางภูมิศาสตร์ (GI) อย่างเป็นทางการ

ประวัติศาสตร์ลำไยเบี้ยวเขียวป่าเศร้า

ลำไยเบี้ยวเขียวมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่า เจ้าแก้วนวรัฐได้นำพันธุ์เบี้ยวเขียวมาจากเมืองจีน แล้วนำมามอบให้เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าเมืองลำพูน เพื่อนำมาปลูกในพื้นที่ป่าเส้า

สวนลำไยเบี้ยวเขียวของครอบครัวพ่อหลวงโบ้ในหมู่บ้านป่าเส้า เป็นสวนที่สืบทอดการปลูกลำไยเบี้ยวเขียวมาถึงรุ่นที่สาม โดยมีเอกสารประกาศนียบัตรรางวัลที่หนึ่งจากการประกวดลำไยจังหวัดลำพูนในปี 2507 เป็นหลักฐานยืนยันคุณภาพที่เป็นเลิศมาอย่างยาวนาน

ลักษณะเฉพาะของลำไยเบี้ยวเขียวป่าเศร้า

ลำไยเบี้ยวเขียวป่าเศร้าสามารถแยกแยะได้จากลำไยสายพันธุ์อื่นด้วยลักษณะเด่นที่เป็นเอกลักษณ์:

ลักษณะภายนอก:

  • ผลสีดำอมเขียว บางลูกอาจเป็นสีน้ำตาลเข้มอมเขียว
  • พวงสวย ลูกใหญ่กว่าลำไยทั่วไป
  • เปลือกมีลักษณะเบี้ยวและมีสีเขียวเป็นเอกลักษณ์

รสชาติ:

  • เนื้อหนา แน่น และแห้ง
  • หวานพอประมาณ กรอบหอม
  • เมล็ดเล็ก ได้เนื้อเยอะ
  • รสชาติหวานหอมกำลังดี ไม่หวานเกินไป

วิธีการปลูกและดูแลลำไยเบี้ยวเขียว

การเพาะพันธุ์ลำไยเบี้ยวเขียว

การขยายพันธุ์ลำไยเบี้ยวเขียวใช้วิธีการตอนกิ่ง ซึ่งเป็นเทคนิคที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ:

ขั้นตอนการตอนกิ่ง:

  1. เลือกกิ่งที่ไม่แก่ไม่อ่อนเกินไป กิ่งต้องอวบ
  2. ใช้มีดควั่นรอบกิ่งประมาณ 2 รอบครึ่ง
  3. ประกบดินเหนียวผสมฮอร์โมนกระตุ้นรากบริเวณรอยควั่น
  4. ห่อด้วยกาบมะพร้าวที่แช่น้ำให้ชื้น
  5. รัดด้วยพลาสติกให้แน่น
  6. รอประมาณ 2 เดือนจนรากเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีน้ำตาลจึงตัดลงปลูก

การปลูกลำไยเบี้ยวเขียว

การเตรียมพื้นที่:

  • ระยะปลูก 4x4 เมตร (ประมาณ 100 ต้นต่อไร่)
  • ขุดหลุมปลูกใส่ปุ๋ยหมัก
  • ปลูกให้ดินในถุงเสมอกับดินเดิม (ห้ามปลูกลึก)
  • ต้องเอาถุงพลาสติกออกก่อนปลูก

การดูแลรักษา:

  • รดน้ำทุก 3-5 วัน (ลำไยไม่ชอบน้ำขัง)
  • มัดกิ่งป้องกันลมโยก
  • พักต้นกิ่ง 7 วัน หลังขนส่งก่อนปลูก
  • ตัดแต่งกิ่งทุกปีเพื่อให้แสงส่องเข้าถึงโคนต้น

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับลำไยเบี้ยวเขียว

หมู่บ้านป่าเส้า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกลำไยเบี้ยวเขียว เนื่องจาก:

ทำเลที่ตั้งพิเศษ:

  • ทิศตะวันออกมีลำน้ำกวงไหลผ่าน
  • ทิศตะวันตกมีแม่น้ำปิงไหลผ่าน
  • สาขาน้ำปิงไหลผ่านกลางหมู่บ้าน

คุณภาพดิน:

  • เมื่อน้ำหลากจะพัดพาดินทราย แร่ธาตุ และสารอินทรีย์มาทับถม
  • ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับปลูกลำไยเบี้ยวเขียว
  • ดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี

การเก็บเกี่ยวลำไยเบี้ยวเขียว

เวลาการเก็บเกี่ยว

  • ใช้เวลาตั้งแต่ออกดอกจนเก็บผลผลิตประมาณ 6 เดือน 20 วัน
  • เก็บเมื่อผลแก่ประมาณ 80%
  • หากเก็บช้าเกินไป เมล็ดจะเริ่มดูดน้ำหวาน ทำให้รสชาติลดลง

การคัดคุณภาพลำไยเบี้ยวเขียว

การคัดลำไยเบี้ยวเขียวแบ่งออกเป็น:

  • เกรดพรีเมี่ยม: ลูกใหญ่ สวย ราคากิโลกรัมละ 100 บาท
  • เกรดสอง: ลูกเล็ก ราคากิโลกรัมละ 40-50 บาท
  • ต้องคัดใบไม้ กิ่งแห้ง และลูกที่ไม่ได้มาตรฐานออก

การแปรรูปลำไยเบี้ยวเขียว

ลำไยเบี้ยวเขียวสามารถนำไปแปรรูปได้หลายรูปแบบ

ลำไยลอยแก้ว

  • คว้านเอาเมล็ดออก ใส่น้ำเชื่อมใบเตย
  • เนื้อลำไยเบี้ยวเขียวหนาและเยอะ เหมาะสำหรับทำลอยแก้ว
  • ไม่เหมาะสำหรับการอบแห้ง เพราะเนื้อหนาจะแห้งช้า

การรับประทานแบบดั้งเดิม

  • กินคู่กับข้าวเหนียว (ตามสไตล์ชาวเหนือ)
  • รับประทานสด เป็นของหวานธรรมชาติ

ราคาและการตลาดของลำไยเบี้ยวเขียว

ลำไยเบี้ยวเขียวป่าเศร้ามีราคาสูงกว่าลำไยทั่วไปมาก เนื่องจาก

  • คุณภาพพิเศษ รสชาติเป็นเลิศ
  • การผลิตจำกัด ปีละครั้ง
  • ได้รับการรับรองมาตรฐาน GI

เปรียบเทียบราคา:

  • ลำไยทั่วไป: 10-15 บาทต่อกิโลกรัม
  • ลำไยเบี้ยวเขียวป่าเศร้า: 100 บาทต่อกิโลกรัม (แตกต่างถึง 10 เท่า)

การส่งเสริมลำไยเบี้ยวเขียวโดยภาครัฐ

เทศบาลตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ได้มีนโยบายส่งเสริมการปลูกลำไยเบี้ยวเขียว โดย

  • รณรงค์ให้ครัวเรือนปลูกคนละ 1 ต้น
  • เป้าหมายปลูกเพิ่มไม่ต่ำกว่า 3,000 ต้น
  • สนับสนุนเป็นพืชอัตลักษณ์ของท้องถิ่น
  • ให้ความรู้เทคนิคการปลูกและดูแล

อนาคตของลำไยเบี้ยวเขียวป่าเศร้า

การสืบทอดลำไยเบี้ยวเขียวสู่รุ่นต่อไปเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ

  • เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของลำพูน
  • สร้างรายได้ดีให้เกษตรกร (สามารถสร้างรายได้ล้านบาทต่อปี)
  • เป็นทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรที่ประสบปัญหาราคาลำไยตกต่ำ
  • ช่วยอนุรักษ์พันธุ์ลำไยพื้นเมืองที่มีคุณค่า

สรุป

ลำไยเบี้ยวเขียวป่าเส้าเป็นมากกว่าผลไม้ธรรมดา แต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีค่าของจังหวัดลำพูน ด้วยรสชาติที่เป็นเลิศ การผลิตที่จำกัด และราคาที่สูง ทำให้ลำไยเบี้ยวเขียวเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบของดี

การสนับสนุนการปลูกและอนุรักษ์ลำไยเบี้ยวเขียวจึงมีความสำคัญต่อการสืบทอดมรดกทางการเกษตรและการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกรไทย หากใครสนใจลิ้มลองรสชาติของ "คิงออฟลำไย" แห่งลำพูน ต้องรอช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมของทุกปี เพราะเป็นผลไม้ลิมิเต็ดที่มีให้ชิมเพียงปีละครั้งเท่านั้น

ติดตามชมรายการมหาอำนาจบ้านนา วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2568 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส

ลำไยเบี้ยวเขียว: ราชาแห่งลำไยลำพูนที่หอมหวานเป็นตำนาน

ลำไยเบี้ยวเขียวป่าเศร้า ลำไยพันธุ์พื้นเมืองที่ชาวลำพูนเรียกว่า "คิงออฟลำไย" เป็นลำไยสายพันธุ์เก่าแก่ที่ปลูกสืบทอดกันมาเป็นร้อยปี โดยเฉพาะที่หมู่บ้านป่าเส้า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ที่ได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ทางภูมิศาสตร์ (GI) อย่างเป็นทางการ

ประวัติศาสตร์ลำไยเบี้ยวเขียวป่าเศร้า

ลำไยเบี้ยวเขียวมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่า เจ้าแก้วนวรัฐได้นำพันธุ์เบี้ยวเขียวมาจากเมืองจีน แล้วนำมามอบให้เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าเมืองลำพูน เพื่อนำมาปลูกในพื้นที่ป่าเส้า

สวนลำไยเบี้ยวเขียวของครอบครัวพ่อหลวงโบ้ในหมู่บ้านป่าเส้า เป็นสวนที่สืบทอดการปลูกลำไยเบี้ยวเขียวมาถึงรุ่นที่สาม โดยมีเอกสารประกาศนียบัตรรางวัลที่หนึ่งจากการประกวดลำไยจังหวัดลำพูนในปี 2507 เป็นหลักฐานยืนยันคุณภาพที่เป็นเลิศมาอย่างยาวนาน

ลักษณะเฉพาะของลำไยเบี้ยวเขียวป่าเศร้า

ลำไยเบี้ยวเขียวป่าเศร้าสามารถแยกแยะได้จากลำไยสายพันธุ์อื่นด้วยลักษณะเด่นที่เป็นเอกลักษณ์:

ลักษณะภายนอก:

  • ผลสีดำอมเขียว บางลูกอาจเป็นสีน้ำตาลเข้มอมเขียว
  • พวงสวย ลูกใหญ่กว่าลำไยทั่วไป
  • เปลือกมีลักษณะเบี้ยวและมีสีเขียวเป็นเอกลักษณ์

รสชาติ:

  • เนื้อหนา แน่น และแห้ง
  • หวานพอประมาณ กรอบหอม
  • เมล็ดเล็ก ได้เนื้อเยอะ
  • รสชาติหวานหอมกำลังดี ไม่หวานเกินไป

วิธีการปลูกและดูแลลำไยเบี้ยวเขียว

การเพาะพันธุ์ลำไยเบี้ยวเขียว

การขยายพันธุ์ลำไยเบี้ยวเขียวใช้วิธีการตอนกิ่ง ซึ่งเป็นเทคนิคที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ:

ขั้นตอนการตอนกิ่ง:

  1. เลือกกิ่งที่ไม่แก่ไม่อ่อนเกินไป กิ่งต้องอวบ
  2. ใช้มีดควั่นรอบกิ่งประมาณ 2 รอบครึ่ง
  3. ประกบดินเหนียวผสมฮอร์โมนกระตุ้นรากบริเวณรอยควั่น
  4. ห่อด้วยกาบมะพร้าวที่แช่น้ำให้ชื้น
  5. รัดด้วยพลาสติกให้แน่น
  6. รอประมาณ 2 เดือนจนรากเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีน้ำตาลจึงตัดลงปลูก

การปลูกลำไยเบี้ยวเขียว

การเตรียมพื้นที่:

  • ระยะปลูก 4x4 เมตร (ประมาณ 100 ต้นต่อไร่)
  • ขุดหลุมปลูกใส่ปุ๋ยหมัก
  • ปลูกให้ดินในถุงเสมอกับดินเดิม (ห้ามปลูกลึก)
  • ต้องเอาถุงพลาสติกออกก่อนปลูก

การดูแลรักษา:

  • รดน้ำทุก 3-5 วัน (ลำไยไม่ชอบน้ำขัง)
  • มัดกิ่งป้องกันลมโยก
  • พักต้นกิ่ง 7 วัน หลังขนส่งก่อนปลูก
  • ตัดแต่งกิ่งทุกปีเพื่อให้แสงส่องเข้าถึงโคนต้น

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับลำไยเบี้ยวเขียว

หมู่บ้านป่าเส้า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกลำไยเบี้ยวเขียว เนื่องจาก:

ทำเลที่ตั้งพิเศษ:

  • ทิศตะวันออกมีลำน้ำกวงไหลผ่าน
  • ทิศตะวันตกมีแม่น้ำปิงไหลผ่าน
  • สาขาน้ำปิงไหลผ่านกลางหมู่บ้าน

คุณภาพดิน:

  • เมื่อน้ำหลากจะพัดพาดินทราย แร่ธาตุ และสารอินทรีย์มาทับถม
  • ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับปลูกลำไยเบี้ยวเขียว
  • ดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี

การเก็บเกี่ยวลำไยเบี้ยวเขียว

เวลาการเก็บเกี่ยว

  • ใช้เวลาตั้งแต่ออกดอกจนเก็บผลผลิตประมาณ 6 เดือน 20 วัน
  • เก็บเมื่อผลแก่ประมาณ 80%
  • หากเก็บช้าเกินไป เมล็ดจะเริ่มดูดน้ำหวาน ทำให้รสชาติลดลง

การคัดคุณภาพลำไยเบี้ยวเขียว

การคัดลำไยเบี้ยวเขียวแบ่งออกเป็น:

  • เกรดพรีเมี่ยม: ลูกใหญ่ สวย ราคากิโลกรัมละ 100 บาท
  • เกรดสอง: ลูกเล็ก ราคากิโลกรัมละ 40-50 บาท
  • ต้องคัดใบไม้ กิ่งแห้ง และลูกที่ไม่ได้มาตรฐานออก

การแปรรูปลำไยเบี้ยวเขียว

ลำไยเบี้ยวเขียวสามารถนำไปแปรรูปได้หลายรูปแบบ

ลำไยลอยแก้ว

  • คว้านเอาเมล็ดออก ใส่น้ำเชื่อมใบเตย
  • เนื้อลำไยเบี้ยวเขียวหนาและเยอะ เหมาะสำหรับทำลอยแก้ว
  • ไม่เหมาะสำหรับการอบแห้ง เพราะเนื้อหนาจะแห้งช้า

การรับประทานแบบดั้งเดิม

  • กินคู่กับข้าวเหนียว (ตามสไตล์ชาวเหนือ)
  • รับประทานสด เป็นของหวานธรรมชาติ

ราคาและการตลาดของลำไยเบี้ยวเขียว

ลำไยเบี้ยวเขียวป่าเศร้ามีราคาสูงกว่าลำไยทั่วไปมาก เนื่องจาก

  • คุณภาพพิเศษ รสชาติเป็นเลิศ
  • การผลิตจำกัด ปีละครั้ง
  • ได้รับการรับรองมาตรฐาน GI

เปรียบเทียบราคา:

  • ลำไยทั่วไป: 10-15 บาทต่อกิโลกรัม
  • ลำไยเบี้ยวเขียวป่าเศร้า: 100 บาทต่อกิโลกรัม (แตกต่างถึง 10 เท่า)

การส่งเสริมลำไยเบี้ยวเขียวโดยภาครัฐ

เทศบาลตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ได้มีนโยบายส่งเสริมการปลูกลำไยเบี้ยวเขียว โดย

  • รณรงค์ให้ครัวเรือนปลูกคนละ 1 ต้น
  • เป้าหมายปลูกเพิ่มไม่ต่ำกว่า 3,000 ต้น
  • สนับสนุนเป็นพืชอัตลักษณ์ของท้องถิ่น
  • ให้ความรู้เทคนิคการปลูกและดูแล

อนาคตของลำไยเบี้ยวเขียวป่าเศร้า

การสืบทอดลำไยเบี้ยวเขียวสู่รุ่นต่อไปเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ

  • เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของลำพูน
  • สร้างรายได้ดีให้เกษตรกร (สามารถสร้างรายได้ล้านบาทต่อปี)
  • เป็นทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรที่ประสบปัญหาราคาลำไยตกต่ำ
  • ช่วยอนุรักษ์พันธุ์ลำไยพื้นเมืองที่มีคุณค่า

สรุป

ลำไยเบี้ยวเขียวป่าเส้าเป็นมากกว่าผลไม้ธรรมดา แต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีค่าของจังหวัดลำพูน ด้วยรสชาติที่เป็นเลิศ การผลิตที่จำกัด และราคาที่สูง ทำให้ลำไยเบี้ยวเขียวเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบของดี

การสนับสนุนการปลูกและอนุรักษ์ลำไยเบี้ยวเขียวจึงมีความสำคัญต่อการสืบทอดมรดกทางการเกษตรและการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกรไทย หากใครสนใจลิ้มลองรสชาติของ "คิงออฟลำไย" แห่งลำพูน ต้องรอช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมของทุกปี เพราะเป็นผลไม้ลิมิเต็ดที่มีให้ชิมเพียงปีละครั้งเท่านั้น

ติดตามชมรายการมหาอำนาจบ้านนา วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2568 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส

ละครดี ซีรีส์เด่น

ดูทั้งหมด

♫ ♫ Songs Popular ♫ ♫

ดูทั้งหมด

คลิปมาใหม่

คนดูเยอะ 👀

ดูทั้งหมด

เสน่ห์ประเทศไทย